กรุ๊ปเลือด กับการตีกรอบความคิดตัวเอง

เป็นแค่ข้อสงสัยบางประการของผมว่า “กรุ๊ปเลือด จะอธิบายนิสัยของคนได้อย่างไร” …เท่าที่ผมหาอ่านมาตามเว็บไซท์ต่างๆ จับใจความได้ว่า เอาผลเลือดกับนิสัยเจ้าของเลือดมาทำการวิเคราะห์ โดยอาศัยหลักจิตวิทยา แล้วสรุปออกมาว่าคนกรุ๊ป A B O  AB  จะมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป  เข่น กรุ๊ปเอ เชื่อมั่นตัวเองสูง กรุ๊ปบี เป็นคนร่าเริง  กรุ๊ปเอบี เป็นคนอ่อนไหว

สรุป ผมมองเหมือนหลายๆคน ว่ามันคือการทำนาย หรือเป็นการดูดวงอย่างหนึ่ง กรุ๊ปเลือดไม่ใช่สิ่งเดียวที่บอกนิสัยคน  สำคัญผมว่าน่าจะเป็นสังคม สภาพแวดล้อม เพื่อน และการเลี้ยงดูของพ่อแม่ หรือการเรียนรู้ที่ผ่านมา

ผมเป็นคนเลือดกรุํป A เท่าที่อ่านตามการทำนาย  พอสรุปได้ดังนี้ว่า

  • เป็นคนที่มี ความเชื่อมั่น ในตนเอง
  • ไม่ค่อย โต้เถียง หรือแสดง ความคิดเห็น ขัดแย้งกับใคร
  • เชื่ออยู่เสมอว่า ความคิดของตน ถูกต้องแล้ว จึงไม่ต้องไป ขอความคิดเห็น จากใครอีก
  • เป็น คนเอาใจเก่งเห็นใจ และตามใจคนอื่นเสมอ
  • โอกาสที่จะพบว่า เขาไปทำให้ ขุ่นข้องหมองใจนั้น จึงไม่ค่อย ได้ปรากฏ ให้เห็นบ่อยนัก
  • เป็นคนขาดความคิดริเริ่ม ซึ่งหากเป็นชาย ที่บังเอิญ ได้หญิงฉลาด ทำงานเก่ง มาเป็นคู่ครอง
  • ฝ่ายหญิงจะรู้สึกผิดหวัง ในตัวเขาอยู่บ้าง
  • เป็นแม่ศรีเรือน ถนัดในการดูแลบ้านช่อง ปรนนิบัติสามี อบรมบุตรหลาน
  • แต่มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง สำหรับหญิงเลือดกรุ๊ป เอ นั่นก็คือ ในเวลาที่หัวใจ ของเธอ มีความรักนั้น เธอจะรักชนิด ทุ่มเทให้หมด ทั้งสี่ห้องหัวใจ
  • เป็นคนมีอารมณ์รุนแรง
  •  รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวชนิด สาวสวยสมัยใหม่ อยู่เสมอ
…ผมเป็นคนเลือดกรุ๊ปเอ ถ้าถามว่ามันตรงกับผมมั้ย ผมว่าไม่ใช่  บางอย่างผมรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเอง  แต่เรื่องแสดงความคิดเห็นหลายๆอย่างผมก็เต็มที่เหมือนกัน  ผมไม่ได้คิดว่าความคิดตัวเองถูกเสมอ เวลาผมมีปัญหา ผมก็รู้จักปรึกษาคนอื่นอยู่นะ
…เรื่องการเอาใจและตามใจคนอื่น  ผมไม่ทำแบบนี้กับทุกคนนะ หลายครั้งผมตามใจตัวเอง มีแค่บางครั้ง ที่ตามใจคนอื่นเพื่อให้เหตุการณ์บางอย่างมันผ่านไปด้วยดี
….เรื่องคนเลือดกรุ๊ปเอ ขาดความคิดริเริ่ม ผมไม่เห็นด้วยนะ ผมว่าคนเลือดกรุ๊ปเอ ก็เป็นผู้นำ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆบนโลกได้
นึกย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นอยู่ ป.4 – ป.5  มีหนังสือดูดวงอยู่เล่มหนึ่ง แล้วผมก็เชื่อมั่นมันมาก เพราะหลายๆอย่างมันตรงกับชีวิตจริง ในช่วงนั้น เท่าที่จำได้หนังสือดูดวงพยายามกำหนดกรอบชีวิต ให้ไปอยู่ในเส้นทางของการทำงานเป็นข้าราชการ เสมียน และพนักงานทั่วไป หนังสือดวงชะตาบอกว่าผมจะค้าขายไม่รุ่งเรือง ไม่เหมาะกับการทำธุรกิจ ชีวิตจะไม่รุ่งเรือง
ถ้าวันนี้ผมยังเชื่อหนังสือดูดวงเล่มนั้น ว่าตัวเองขายของไม่ได้ ทำธุรกิจไม่เป็น ศิลปะไม่รอด   ผมคงไม่ได้มาทำงานเว็บ ผมทำงานรับทำพาวเวอร์พ้อย และขายเทมเพทมาก่อน จึงหาเงินมาทำเว็บเว็บได้
จุดเปลี่ยนทางความคิดมาเกิดขึ้นตอนที่เรียนวิชาประวัติศาสตร์ ทำกิจกรรมชมรม และฝึกสต๊าฟในฤดูร้อน  พอได้ทำหลายๆอย่าง มันทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า “เราทำได้” ด้วยความสามารถ  ว่า “บางอย่าง” มันฝึกกันได้ โดยไม่ต้องให้โชคชะตามากำหนด ว่าเราต้องเดินไปทิศทางใด
ณ วันนี้ ผมยังไม่ใช่ผู้ประสบความสำเร็จอะไรมานะ งานที่ผมทำอยู่ก็เพิ่งจะเริ่มต้นมาเพียงปีกว่า หากเทียบกับประสบการณ์ชีวิตของคนอื่นๆ ผมยังอยู่ในขั้นอนุบาล  เพียงแต่เชื่อว่า คนเรามันสามารถพัฒนาและเปลี่ยนแปลงกันได้  ไม่ใช่จะนิสัยเดิมไปตลอดชั่วชีวิต คิดแบบชั่วๆผมก็เคยคิด คิดดีก็คิดอยู่ และในอนาคตผมยังไม่รู้เลยว่าจะได้เป็นอะไร จะเดินไปแบบไหน เพราะตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ ผมไม่ใช่คนเดิมทุกปี เหมือนกับเพื่อนอีกหลายๆคน ที่รู้จักกันมา พอได้ผ่านอะไรมาร่วมกัน ความคิดมันก็เปลี่ยน พัฒนาขึ้น โตขึ้น
ส่งท้าย เรื่องกรุ๊ปเลือด โชค ดวงชะตาต่างๆ คุณมีความเชื่อเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิด มันเป็นธรรมดาของสังคม ของแบบนี้อะไรก็เป็นไปได้  …แต่ขอแนะนำอย่านำสิ่งที่เชื่อ ไปบังคับตัวเองมากนัก อย่านำความเชื่อปิดกั้นโอกาสตัวเอง ปิดกั้นโอกาสคนอื่น  เอาความเชื่อไปใช้เพื่อเสริมสร้างกำลังใจ เป็นแรงผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าดีกว่า
Facebook Comments