จากกระทู้ใน Pantip กับพวก Anti-Apple

iPad-pantip

ทุกวันนี้กลายเป็นธรรมชาติไปแล้ว ถ้ามีกระทู้หรือเนื้อหาที่เกี่ยวกับ iPhone iPad แล้วมักจะมีคนกลุ่มหนึ่งออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงลบอยู่เสมอๆ ผมขอเรียกเขาว่า กลุ่ม “Anti-Apple” คือผลิตภัณฑ์จาก Apple ก็คือคู่แข่งของ Google Android หรือเป็นแม่มดสำหรับคนใช้ Android ก็ว่าได้

แต่เดิมผมจะเห็นคนกลุ่มนี้ในบล็อก Blognone.com อยู่ในพันทิพย์ก็มีบ้าง แต่เพิ่งมาเห็นชัดเจนก็วันนี้ จากที่ได้ไปตั้งกระทู้ “ถ้าถามผมว่า iPad ทำอะไรได้บ้าง” กระทู้นี้เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของผมที่ตั้งใจ อยากจะแลกเปลี่ยนเรื่องการใช้ iPad App และเพื่อ PR บล็อกให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น  หลังจากโพสไปวันแรกก็ติดกระทู้แนะนำเลย

แต่เบื้องหลังของการได้ขึ้นกระทู้แะนำคือ “ดราม่า” ระหว่างคนใช้ iPad กับ ถ้าถามผมว่า Anti-Apple ซึ่งอาจจะมาจากหลายค่าย  ผมเดาๆว่าเป็นกลุ่มใช้ Android นะ แต่ไม่ทุกคนที่ใช้ มันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะหลายคนเขาก็ใช้กันหลาย OS ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งเดียว

สำหรับประเด็นของการดราม่า ในกระทู้ คือการเอา iPad ไปเปรียบเทียบกับ TV PSP EBook ฯลฯ สารพัด และมองว่า iPad เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย  ทั้งๆที่กระทู้ที่ผมตั้งขึ้น ตั้งในกระทู้ย่อย iOS นั้นหมายถึงตั้งใจจะพุดคุยกับคนใช้ iPad ด้วยกัน ไม่ได้อยากจะ VS กะใคร

iPad-pantip3

บางความเห็น แม้ว่ามันจะถูกต้องหรือใช่สำหรับเขา แต่ผมคิดว่าบางครั้งก็ไม่ต้องบอกคนอื่นก็ได้  และจากคอมเม้นที่เอามาให้ดู ก็กลายเป็นอีกหนึ่งชนวนที่ทำให้ดราม่ายาว จนเริ่มไร้สาระ คือแทนที่คนเข้ามาเขาจะได้เห็นประโยชน์การใช้ iPad กลับต้องมาเจอ ดราม่า ระหว่าง คนใช้ iPad กับคนไม่ได้แต่ชอบดูถูกสติปัญญาคนที่เขาใช้

iPad-pantip4

ตัวอย่างของ Anti-Apple นะ คือมีคนเอาแอพเทรดหุ้นมาโชว์ บอกว่าใช้ iPad ดูหุ้นได้

iPad-pantip5

แต่ว่ามีคอมเม้นแนวๆนี้มา …แบบว่าคนใช้ iPad เขาจะคุยกันน่ะ  เม้นนี้มองโลกในแง่ร้ายมาก สงสัยเพิ่งกลับมาจากลิเบีย

iPad-pantip6

ถ้าถามถึงเป้าหมายการโพสกระทู้ก็ประมาณนี้หล่ะครับ แนะนำการใช้งานจากสิ่งที่มีให้คุ้มค่า  ถ้ามองอย่างนี้ได้ สังคมจะน่า  ความรู้จะถูกต่อยอดพัฒนาขึ้น

สรุป จริงๆแล้วมันก็คือเรื่องที่ต้องทำใจกับสังคมที่ยึดถือพรรคพวกความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ดุถูกฝั่งตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็น แมนยู-ลิเวอร์พูล แดง-เหลือง  หรือแม้แต่ Apple-Android สองอย่างนี้เป็นสินค้า  แค่ใช้สินค้าไม่เหมือน ก็ดราม่ากันได้ขนาดนี้

Facebook Comments