wordpress – Makky.in.th http://makky.in.th ถึงเวลา เดี๋ยวเรื่องก็มาเอง Wed, 31 Aug 2016 09:05:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.1.4 เปลี่ยนธีมเว็บใหม่ กับแนวคิด “คืนสู่ความเรียบง่าย” http://makky.in.th/2817/ http://makky.in.th/2817/#comments Tue, 19 Aug 2014 10:42:25 +0000 http://makky.in.th/?p=2817 ปกติผมจะเปลี่ยนธีมเว็บ maahalai.com แค่ปีละครั้ง แต่ปีนี้เปลี่ยนมาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว สาเหตุหลักก็เพราะว่าต้องการให้ผู้ชมโหลดหน้าเว็บได้เร็วขึ้น อ่านง่าย และค้นหาข้อมูลข้อมูล

ธีมใหม่ได้เปลี่ยนในช่วงต้นเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ผมปรับแนวคิดการทำงานใหม่ หลังจากที่ปล่อยปะละเลยมานาน จนสถิติการเข้าชมเว็บจากทรูฮิตมันตกลงไปเกือบๆอันดับที่ 400 พอตั้งหลักได้ก็ปรับแผนครั้งใหญ่ อันดับเว็บดีขึ้น แต่ยังไม่พอใจเท่าไหร่ เพราะเคยทำได้ดีกว่านี้

การเลือกธีม
ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนธีมเว็บ ผมลองเข้าเว็บอื่นหลายๆเว็บแล้วก็ตั้งคำถาม ทำไมเว็บเราโหลดช้ากว่าเขา แล้วทำอย่างไรจะให้เว็บโหลดเร็วกว่านี้ จากนั้นก็เริ่มต้นด้วยการตัดฟังชันบางส่วนของธีมออก แม้ว่าธีมจะถูกโหลดเร็วขึ้น แต่รู้สึกว่ามันไม่สวยเหมือนเดิม ก็เลยตัดสินใจจะเปลี่ยนธีมใหม่

ผมเริ่มหาเว็บด้วยการค้นคำว่า WordPress Theme blog เพราะอยากได้เว็บที่มีลักษณะคล้ายบล็อก เพื่อให้ดูเรียบง่าย แต่อยากได้แบบไม่เรียบง่ายเกินไป ขอแบบมีลูกเล่นที่ Head บ้าง

ผมใช้เวลาประมาณ 3 วัน สำหรับค้นหาธีมใหม่ ซึ่งจริงๆมันไม่ได้ตรงกับความต้องการ 100% แต่พยายามหาในแบบที่ไกล้เคียงที่สุด ลำพังจะไปจ้างทำก็ไม่มีงบมาก เพราะเพิ่งถอยแมคบุ๊คเดี๋ยวไม่มีตังค์ใช้

ธีมใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Lightly ซื้อจาก ThemeForest ในราคา $43 ประมาณ 1,400 กว่าบาท ธีมนี้ถูกสร้างนานแล้วตั้งแต่ปี 2012 ถือว่าเป็นธีมเก่าอยู่นะ แต่มันโหลดหน้าเว็บได้เร็วดี และรองรับการชมได้ทั้งบนมือถือและแท็บเลทก็เลยเลือกธีมนี้

mac-151

ลักษณะของธีมจะดูคล้ายๆแมกกาซีน แต่ผสมผสานกับรูปแบบบล็อก เลยทำให้ดูไม่ยาก แม้จะเพิ่งเข้าเว็บครั้งแรกแต่ก็น่าจะทำให้ผู้ชมเข้าถึงข้อมูลต่างได้ง่าย เพราะโครงสร้างของเว็บดูธรรมดามากๆ (ต่างจากธีมเก่าที่ผมใช้ โครงสร้างค่อนข้างซับซ้อนเหมือนเว็บใหญ่)

ความง่ายในแบบของผม
นอกจากเปลี่ยนธีมแล้ว สิ่งที่ทำคือการไม่พยายามขยายสาระให้มากสาขาจนเกินไป เพราะมันจะเจาะลึกลำบาก หรือถ้ามีเนื้อหามากก็ไม่ทำซับโดเมนใหม่ เพราะนอกจากผู้ใช้จะสับสนแล้ว ยังต้องมาเหนื่อยกับการอัพเดทระบบทีละเว็บ

ความง่ายมันไม่ใช่แค่การตัดและการจำกัด แต่บางอย่างมันต้องชัดเจนด้วย ก็เลยออกแบบโลโก้เว็บใหม่ที่เกือบจะคล้ายโลโก้เว็บรุ่นแรก แต่เปลี่ยนจากตัว M ใหญ่มาเป็น m เล็ก และใช้พื้นหลังเข้มให้ดูเด่นๆไปเลยว่านี่คือโลโก้

mac-150

และไม่ใช่แค่เบื้องหน้าที่ทำอะไรออกมาให้ดูง่าย ผมพยายามปรับการทำงานเบื้องหลัง เริ่มจากจัดการไฟล์ในเครื่อง และเลือกใช้แต่โปรแกรมที่จำเป็น เพื่อให้ชินกับการทำงานที่เร็วๆ จะได้นำความรู้สึกส่วนนี้ไปใช้กับการทำเว็บ

สิ่งที่ยังไม่เสร็จ
ผมยังไม่พอใจกับช่องทางสื่อสารระหว่างผู้ชมกับแอดมินเท่าไหร่ ตอนนี้มีคุยบนแฟนเพจกับช่องคอมเม้นเท่านั้น แต่ผมอยากเพิ่มบริการที่ทำให้หาคำตอบได้ง่ายขึ้น และแอดมินต้องไม่ลำบากจนเกินไป เพราะทำเว็บคนเดียว

สิ่งที่พยายามทำอยู่คือระบบถาม-ตอบ คล้ายๆกับ Ask.fm แต่ยังมีบางส่วนที่ต้องแก้ไข และยังไม่มีเวลาพอที่จะทำให้เสร็จเร็วๆ

อีกอย่างที่กำลังพิจารณาคือหน้า FAQ อยากทำอยู่ แต่เนื่องจากเว็บเป็นวาไรตี้ด้านไอที การรวมคำถามที่ถามบ่อยมันเป็นงานหนักมาก เพราะเว็บมีหลายหมวด mac iphone ipad android facebook windows และ windows phone

สุดท้ายคือเรื่องของการค้นหา ผมเคยคิดจะทำสารานุกรมในหมวดไอทีแต่ไม่สำเร็จ เพราะรู้สึกว่ายากเกินไปสำหรับการทำอะไรคนเดียว และเสียดายอีกอย่างที่ Custom Search ของ Google ไม่รู้ระบบมีปัญหาหรือเพราะอะไรถึงได้ตัดเอาค้นหาด้วยเสียงออก ไม่งั้นผมจะเปลี่ยนมาใช้ยกเว็บเลย

]]>
http://makky.in.th/2817/feed/ 9
เปลี่ยนธีมเว็บใหม่ และสิ่งที่ได้รับ http://makky.in.th/2783/ http://makky.in.th/2783/#comments Tue, 04 Feb 2014 16:22:50 +0000 http://makky.in.th/?p=2783 รู้สึกเบื่อธีมเว็บ Maahalai.com และเห็นข้อจำกัดบางอย่าง จากการเข้าไปดูเว็บไอทีอื่นๆ เช่นเว็บ theverge.com ดูแล้วคิด..ทำไมเขาเว็บสวยจังเลย หลายเรื่องยังกะบทความในนิตยสาร เพราะมีบางหน้าที่เขาได้ตกแต่งให้สวยงามเป็นพิเศษ

ข้อจำกัดของเว็บตัวเองที่ผมมองเห็นคือ ความกว้างของหน้ามันน้อยเกินไป อยู่ที่ประมาณ 600px ผมอยากได้กว้างกว่านี้สัก 700 px เพราะจะทำให้เห็นรายละเอียดชัดขึ้น และธีมที่ใช้มันตกแต่งอะไรในเนื้อหามากไม่ได้ ขณะที่เนื้อหาในเว็บมีมากขึ้น มีเนื้อหาหลายหมวดแต่เหมือนว่ายังเป็นเว็บที่ดูเล็ก เลยคิดจะทำให้ใหญ่ขึ้นด้วยการเปลี่ยนธีม

การหาธีม
ผมค้นคำว่า WordPress theme magazine ในกูเกิ้ล แล้วยังไม่เจอธีมที่โดนใจเท่าไหร่ ก็เลยไปดูเว็บอื่นๆว่าเขามีธีมแบบไหน เขาทำแบบไหนทำไมมันสวยและน่าสนใจ และจากการที่ดูหลายเว็บผมสนใจอยู่ 2 เว็บคือ theverge.com (เว็บต่างประเทศ) กับ macthai.com อันนี้เว็บของคนไทย ทั้งสองเว็บต่างกันตรงที่อันหนึ่งเป็นแม็กกาซีนและอีกอันเป็นบล็อก …ผมต้องการธีมแนวแม็กกาซีน

แต่ทั้งสองเว็บเป็นธีมที่สร้างขึ้นเอง ซึ่งผมไม่มีทักษะการสร้างธีม WordPress เลย ให้ตกแต่งเองพอทำได้ก็เลยต้องหาซื้อธีม แต่ตอนแรกได้มองหาธีมฟรีก่อน เพราะธีมที่ขายอยู่ทั่วไปราคาก็ไม่ใช่น้อย แต่ปรากฏว่าของฟรีดีๆมันไม่ค่อยมี ก็เลยต้องไปมองหาอันที่เขาขาย ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ $45-$55

และจากการมีเว็บ TheVerge เป็นไอดอล ก็เลยค้นหาธีมที่คล้ายเว็บนี้ ราคาอยู่ที่ $55 ขายบนหน้าเว็บ themeforest.net คือไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้มาซื้อธีมเว็บนี้เพราะมีแต่แพงๆทั้งนั้น แต่พอมาคิดอีกที $55 ไม่ถึง 2,000 บาท แต่สามารถใช้ได้ตลอดไป มันก็คุ้มอยู่นะเพราะธีมเดิมที่ใช้เป็นของฟรีที่ใช้มาประมาณ 2 ปีแล้ว

Makky14-0003

เว็บ TheVerge ตัดมาให้ดูบางส่วน

ธีมที่ผมหาได้ก็คือ Steam เจ้าของธีมบอกได้แรงบันดาลใจมาจากเว็บ TheVerge ซึ่งผมดูแล้วมันก็แค่คล้ายๆตรงส่วนหัว ไม่ได้ถึงกับเหมือน โครงสร้างอะไรของธีมดูแตกต่างกัน แต่ที่ชอบมากๆคือตกแต่งพื้นหลังของโพสบางหน้าได้เหมือนกัน …ซึ่งทำให้แต่งเว็บได้เหมือนหนังสือแม็กกาซีน เพราะในหนังสือแมกกาซีนหลายๆหน้ามันไม่ได้ใช้โทนสีเดียวกันหมดเหมือนบนเว็บ ถ้าเว็บทำอย่างแม็กกาซีนได้จะน่าสนใจมากๆ ซึ่งเว็บดังๆของต่างประเทศก็ไปถึงขั้นนั้นกันแล้ว

Makky14-0004

เว็บ maahalai.com แบบเต็มหน้า

รูปแบบธีมใหม่
เว็บผมยังตกแต่งไม่เสร็จนะ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเพิ่ม แต่ด้วยเวลาที่จำกัดก็เลยทำแบบให้พอใช้ได้ไปก่อน ค่อยๆคิดค่อยๆใส่ทีหลัง จะทำทีเดียวให้เสร็จเดี๋ยวไม่ได้ทำงานพอดี แต่ก็พอใจกับหน้าเว็บที่เห็นอยู่

ที่ผมชอบธีมนี้เพราะตรง Head ทำช่องสี่เหลี่ยมได้น่าสนใจ แต่งหน้าเว็บได้ค่อนข้างอิสระและมีหน้าแสดงเนื้อหาที่กว้างถึง 739 px รองรับการชมผ่านมือถือกับแท็บเลทตามรูปแบบเว็บไซท์สมัยใหม่

ส่วนได้มาแบบไม่รู้ว่าจะได้คือมี Shortcodes สำหรับตกแต่งหน้าเว็บนี้ด้วย >ตัวอย่างคลิกดูได้ที่นี่< โค้ดนี้ใส่แล้วมันช่วยให้สร้างบทความได้น่าสนใจมากขึ้นจริงๆ ส่วนตัวมีอะไรจะทำเพิ่มโดยใช้โค้ด ตอนนี้กำลังหัดใช้บ้างแล้ว

ปัญหาที่พบ
– ติดตั้งเว็บตอนแรกมันขึ้น 404 Error ที่หน้าโพส ทุกโพสเลย ผมแก้ปัญหาด้วยการเข้าหน้า Permalink Settings แล้วกดบันทึกไฟล์ .htaccess อีกครั้ง
– รูปแบบโฆษณาที่เคยวางมันวางอย่างเดิมไม่ได้ ตอนนี้กำลังทดลองวางใหม่ ผลก็คือยอด Adsense ลดลง
– จำนวนคนเข้าดูหน้าเว็บลดลงอย่างน่าใจหาย คงเป็นเพราะเปลี่ยนธีมใหม่นี่แหล่ะ อะไรต่างๆยังไม่เข้าที ผมก็กำลังแก้ปัญหา
– ต้องหาปลั๊กอินบางอย่างมาทดแทนกับของเดิมที่มันเป็นฟีเจอร์อยู่กับธีมเก่า โดยเฉพาะ Random post widget ผมอยากได้อันนี้

สรุป
– ใช้ธีมใหม่ผมไม่ได้ปรับตัวยาก แต่ผู้ชมจะใช้เวลาปรับตัวกับธีมใหม่พอสมควร
– ผมพบโอกาสสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ จากธีมใหม่ธีมนี้
– รู้สึกตัวเองทำอะไรเก่งขึ้นจากการหัดใช้ Shortcodes
– แม้จะมีปัญหา แต่คิดว่าตัดสินใจดีแล้วที่เปลี่ยนธีมใหม่

]]>
http://makky.in.th/2783/feed/ 7
ปัญหาที่เว็บมาสเตอร์จะพบ เมื่อทำเว็บไปนานวัน http://makky.in.th/1158/ http://makky.in.th/1158/#comments Wed, 09 Nov 2011 13:43:19 +0000 http://makky.in.th/?p=1158

สิ่งที่หลายๆเว็บมีปัญหาเหมือนกันคือเว็บล่ม เว็บล่มมีปัญหาทั้งจากโฮสและจากเราเอง อีกปัญหาคือเกิดจากคนที่เข้ามาคอมเม้นในเว็บที่มีทั้งหวังดีและหวังร้าย  และบางครั้งก็มีปัญหากับปลั๊กอินของเว็บเสียเอง

ปัญหาเว็บล่มของผมเกิดจากการที่เว็บมีไฟล์ภาพจำนวนมากและคนเข้าดูเยอาะมาก ในตอนแรกที่ทำเว็บผมอัพไฟล์ภาพทั้งหมดเข้าโฮสตัวเอง ช่วงแรกๆ ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเว็บแรกที่ผมทำคือ droidza.com ไฟล์ภาพเยอาะมาก เพราะมีภาพทุกบทความ ต่อมาได้ติดตั้งเว็บเพิ่มอีกสองเว็บ ได้แก่ maahalai.com และ makky.in.th คือบล็อกนี้เอง ปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้น ในช่วงเดือนมีนา-เมษา ปีนี้เอง เป็นช่วงที่นักเรียนนักศึกษาปิดเทอม คนเข้าเว็บเยอาะมาก วันละหลายหมื่นคนจนเว็บล่ม ล่มเว็บเดียวแต่เสียหายยกพวง คือเว็บ maahalai.com มีคนเข้าชมจำนวนมาก ช่วงนั้นเข้าเยอาะอยู่เว็บเดียว จนโฮสทำงานไม่ได้ ทางเจ้าของโฮสเขาก็เลยแจ้งแนะนำให้เปลี่ยนระบบเป็น VPS จากเดิมที่ผมใช้ แชร์โฮสคือโฮสเดียวทำงานร่วมกับเว็บเจ้าอื่นด้วย การใช้ VPS เป็นการลำลอโฮสแยกตัวออกมา ทำให้เว็บรองรับผู้ชมได้มากขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นจากรายปีเปลี่ยนเป็นรายเดือน

ปัญหาเว็บล่มผมไม่ได้แก้ปัญหาแค่อัพเกรดระบบโฮส เพราะต้นตออยู่ที่รูปภาพจำนวนมากที่ฝากไว้กับโฮส หลังจากได้อัพเกรดเป็น VPS แล้ว ผมได้ทยอยลบภาพหลายพันภาพในโฮส แลพอัพโหลดภาพฝากไว้กับ Google และแก้ไขบทความใหม่เพื่อให้โฮสไม่ทำงานหนักจนเกินไป และถ้าไม่ทำต้อเสียตังอัพเกรด VPS เพิ่มอีก ในตอนนั้นผมต้องนอนเช้าทุกวันเพื่อแก้ไขบทความเป็นพันๆเรื่อง

อีกสาเหตุที่มาพบภายหลังคือเกิดจากปลั๊กอินที่ใช้ ถ้าใครใช้ WordPress ก็ลบ Relate post กับ WP-postview ออกไปได้เลย มันทำให้โฮสทำงานหนัก แต่เปลี่ยนไปใช้ปลั๊กอินตัวอื่นๆที่ทำงานไกล้เคียงกันแต่ไม่ทำร้ายโฮส

ส่วนปัญหาจากคนที่เข้ามาคอมเม้น ส่วนใหญ่เป็นคนไทย ชอบเข้ามาโฆษณาทำงานออนไลน์ได้ตังค์ ทำ SEO เข้าเว็บตัวเองบ้าง คนพวกนี้ผมเจออยู่วัน และก็ลบออกทุกวัน เพราะทันทีที่ได้รับเมล์แจ้งเตือนผมก็เข้าไปลบ

นอกจากโฆษณาคอมเม้นอื่นๆ ไม่เข้ามาผมก็ลบ เพราะถือเป็นสิทธิ์ขาดในฐานะเจ้าของเว็บ คอมเม้นที่ลบส่วนใหญ่ จะลบพวกที่ใช้คำหยาบ ด่าทอคนอื่น บางคนก็ด่าเจ้าของเว็บเสียเอง ผมเจอผมลบออกไป แต่คอมเม้นดราม่าก็ยังมีอยู่เยอาะ มีดราม่ากันทุกวัน โดยเฉพาะเว็บ maahalai.com แต่ส่วนใหญ่ผมไม่ได้ลบออก เพราะเขาไม่ได้หยาบคาย ถ้าใครหยาบคายค่อยลบ

ปัญหาเกี่ยวกับการคอมเม้นอีกอยาก ที่ผมพยายามไม่ให้มันเป็นปัญหา คือหลายๆบทความจะมีการตั้งคำถามมากมาย ซึ่งหลายๆคำถามมันมีคำตอบอยู่ในบทความ หลายคนถามนอกเรื่อง หลายคนถามคำถามที่ผมตอบไม่ หลายคนถามแบบไม่มีมารยาท …ผมก็ไม่ตอบ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กอ่ะนะ เวลาถามคำถามจะลงท้ายด้วยคำว่า “ตอบด้วย” มันเหมือนกับจะบังคับกัน ผมถือว่าถามแบบนี้ไม่ให้เกียรติกัน

ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาส่วนหนึ่ง จากประสบการณ์ทำเว็บมาเกือบสองปี ในความเป็นจริงงในแต่ละเดือนผมมีปัญหามาเป็นระยะๆ เพราะเว็บมันเป็นงานที่ต้องพัฒนาอยู่เรื่อยๆ เว็บไม่ใช่งานฝากเงินธนาคาร ทำครั้งเดียวแล้วรอเก็บดอกเบี้ย เว็บต้องการความต่อเนื่อง และความท้าทายของงานนี้ยังมีอีกมากมาย

]]>
http://makky.in.th/1158/feed/ 11
ความรู้ที่มีทั้งหมด ในการสร้างและจัดการเว็บ http://makky.in.th/664/ Fri, 15 Jul 2011 18:02:42 +0000 http://makky.in.th/?p=664  

แต่เดิมคิดว่าการทำเว็บต้องใช้ Dreamweaver ซึ่งมันยากมากสำหรับผม แล้วก็ทำไม่เคยสำเร็จ  แต่ด้วยแรงจูงใจบางอย่าง ทำให้ผมลองเขียนบล็อกด้วย Blogspot เมื่อสองสามปีก่อน  ทำให้เริ่มรู้จักโครงสร้างคร่าวๆ ว่าการทำเว็บไม่น่าจะยากอย่างที่คิด บล็อกแรกที่ทำเป็นบล็อกเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์   แต่ตอนนั้นยังไม่เป็นบล็อกเกอร์

จุดเปลี่ยนคือหันมาเขียนบล็อก รีวิวแอพมือถือโนเกีย พอเขียนไปได้สักพักเกิดอยากมีเว็บขึ้นมา ก็พยายามศึกษาตามอ่านวิธีสร้างเว็บ ผมก็เริ่มด้วยการสมัครโฮสฟรี และโดเมนฟรี เพื่อทดลองสร้างเว็บ ปรากฏว่าทำสำเร็จ ก็เลยเริ่มต้นด้วยการลงทุนเช่าโฮสและจดโดเมน  เว็บแรกที่ผมทำคือ Lovemaq.com (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเว็บและปิดตัวไปแล้ว)

ตลอดระยะเวลาปีครึ่งที่เป็นเว็บมาสเตอร์ คำถามที่ผมเจอบ่อยๆ  จบอะไร เรียนอะไรมา แล้วคำตอบก็คือ ป.ตรี ประวัติศาสตร์ และกำลังศึกษาโทพิพิธภัณฑ์  เรียนสายนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างเว็บเลย  แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะมีบางอย่างที่ผมนำมาประยุกต์ใช้ได้

องค์ความรู้หลักๆที่ผมใช้สร้างเว็บ

  1. โดเมนเนม
  2. การจัดการโฮส
  3. ติดตั้งและจัดการ wordpress
  4. ภาษา html
  5. ภาษา css  (นิดหน่อย)

ทั้ง 5 อย่างนี้คือสิ่งที่ผมใช้ในการจัดการและปรับแต่งเว็บ มันคือความรู้ที่ผมเรียนรู้เอง โดยหาอ่านเนื้อหาตามเว็บบอร์ด หรือค้นจาก Google  ที่สำคัญคือผมได้ทำ ได้ลองสร้าง  ลองผิดลองถูกหลายครั้ง โดยเฉพาะความล้มเหลว ผมผ่านตรงนี้มาเยอาะกว่าจะทำได้ เพราะไม่ได้เรียนด้านนี้มา

ความรู้ที่มาจากการเรียนประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์

  1. การคิดโดยมีเหตุผล และหลักฐาน
  2. การเขียนงานวิชาการ
  3. การคิดนอกกรอบประวัติศาสตร์
  4. การเขียนงานเชิงวิเคราะห์
  5. การเล่าเรื่อง
  6. การสร้างประเด็น
  7. การตลาดและกลุ่มเป้าหมาย

ทั้ง 7 อย่างนี้คือสิ่งที่ผมได้เรียนมา แต่ละวิชาก็จะมีเนื้อหาสาระที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญมันคือ ประสบการณ์ที่อาจารย์สอน เช่น วิธีคิด การคอมเม้นงานของอาจารย์ผมก็ได้วิธีเขียน  ซึ่งการเรียนสายสังคมจะเน้นการวิพากษ์และวิเคราะห์ และตีความ แล้วเขียนออกมาเป็นเรื่องเป็นราว จึงทำให้การเขียนบล็อกไม่ใช่เรื่องยาก เขียนเล่าอะไรก็ได้ ขอแค่มีความรู้จากสิ่งๆนั้น

การประยุกต์ใช้

บล็อกแรกที่ผมทำคือบล็อกรีวิวแอพมือถือโนเกีย 5800xmz.blogspot.com วิธีการสร้างเนื้อหาผมคือ ใช้งานแอพตัวนั้นจริงๆ แล้วเอามาเล่าให้ฟังพร้อมภาพประกอบว่าใช้ยังไง  เว็บอื่นๆก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการทำหน้า fbml สำหรับ แฟนเพจ , การใช้ iPad, การใช้ Androd, เทคนิคแฮปปี้คนเลี้ยงหมู ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำอยู่ทุกวัน การทำเว็บของผมก็เลยเหมือนกับการนำสิ่งที่ทำอยู่มาเล่าให้ฟัง …นี่คือหลักการของผม

]]>