เดี๋ยวจะมีคนมาถามวิธีใช้ Samsung S2 อยู่เรื่อยๆ เอาเป็นว่าตอนนี้ไม่ได้ใช้ S2 แล้ว แต่เปลี่ยนมาใช้ HTC ONE V แทน …เหตุผล ไม่ใช่เพราะ S2 เป็นโทรศัพท์ห่วยแตก ไม่ใช่เพราะ ONE V สเปกดีกว่า ไม่ใช่แล้วเพราะอะไร…

1. ไม่เคยใช้ S2 ได้เต็มประสิทธิภาพ
คือมือถือรุ่นนี้เป็นรุ่นไฮเอ็นด์ แต่ผมใช้งานอยู่ไม่กี่อย่าง เช่น ถ่ายภาพ เล่นเฟส ทวิทเตอร์ ดูข่าวบ้าง …แต่ไม่ค่อยเล่นเกมส์ ผมเล่นเกมส์หนักๆบน iPad มากกว่า

2. จอใหญ่เกินไป
ตอนแรกก็ชอบเพราะจอใหญ่ คือมันเห็นอะไรได้กว้างขึ้น แต่ยิ่งใช้ไปก็รู้สึกว่าไม่สะดวก มันไม่กระชับ …ผมเป็นคนมือเล็ก ถ้าเป็นคนมือใหญ่ อาจจะไม่รู้สึกแบบนี้

3. แบตไม่ทน
ผมเปิดโหมดประหยัดแบต มันก็ประหยัดได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ในการใช้งานจริงมักจะไปไม่รอดเท่าไหร่ ผมว่าเหตุผลสำคัญคือจอมันใหญ่ (ตรงนี้ซัมซุงน่าจะรู้ดี ก็เลยออก S3 ที่มีแบต 2100mAh)

4. เบื่อดีไซน์
ตอนที่ผมไปซื้อ S2 ก็เพราะดีไซน์ด้วยนะ มันคล้าย iPhone ดี ผมชอบ ผมก็ซื้อ …แต่ตอนนี้รู้สึกเบื่อ ไม่ใช่ว่าไม่ดี แค่เบื่อ ซึ่งทุกคนก็เบื่อกันได้

5. ผมไม่เคยใช้ HTC
คือใช้ Samsung มาสองเครื่องแล้ว อยากเปลี่ยนบ้างอะไรบ้าง ตอนแรกก็เล็งๆ SONY ไว้ …แต่เอาไว้งวดหน้าล่ะกัน ขอเป็น HTC ก่อน

6. ชอบวัสดุ
งานประกอบของ HTC นี้ดูแข็งแรงมาก หากเทียบกับ S2 แล้วดูเปราะบางไปเลย (แต่เครื่องบางๆอยาก S2 ก็ทนนะ มันไม่ได้พังง่ายๆ)

7. ความเหมาะมือ
ONE V ไม่ใช่มือถือหน้าจอกว้าง แต่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการจับที่กระชับมือ สังเกตว่าส่วนล่างจะเป็นเอียงๆ เพราะให้จับได้ง่าย

8. สเปกพอดีใช้
ONE V นี้มีรากฐานมาจาก ICS หรือ Android 4.0 โดยแท้ CPU ที่จัดมาแค่ Single Core ไม่น่าจะมีปัญหาการใช้งานสักเท่าไหร่ …สำคัญคือ ผมมีทั้ง iPhone และ iPad ก็เลยไม่คิดว่าจะเอา ONE V มาใช้งานหนักอะไร แค่รีวิวแอพเท่านั้น แอพที่หามารีวิวผมเน้นประโยชน์ใช้สอย ไม่ได้เน้นเกมส์ 3D หนักๆ

9. พอแล้วกับ “ซัมซุง”
พอแล้วในที่นี้คือ ผมเต็มอิ่มแล้วกับระบบของ Samsung และไม่คิดอยากได้ S3 เลย มันเป็นความรู้สึกที่ได้เวลาที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เลยหันมาใช้ HTC …และก็คิดว่าคงจะไม่ได้ใช้ HTC ตลอดกาล วันนี้ผมเลือกมันเพราะผมชอบ แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ถ้ามีความรู้สึกเบื่อขึ้นมา เดี๋ยวก็อยากเปลี่ยนเอง

วิธีทำจาก mobiledista.net

วิธีการลง TouchWiz ของ Galaxy S3 บน Galaxy S2 มีดังนี้

1. เครื่องต้องรูทแล้ว และมี clockworkmod recovery เรียบร้อยแล้ว
2. ดาวน์โหลด TouchWiz จาก ที่นี่
3. Copy ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาในขั้นตอนที่แล้ว มาไว้ใน Internal SD card ของเครื่อง
4. ปิดเครื่อง Galaxy S2 แล้วเข้าสู่โหมด recovery (ปิดเครื่องแล้ว กด Vol. up + Home + Power ค้างไว้ , หรือบาง custom rom ก็สามารถเข้าสู่โหมดนี้ได้ทันที)
5. เลือกไปที่ install zip from sdcard, เลือกไฟล์ Touchwiz .zip ที่เราดาวน์โหลดมา > yes > install
6. จากนั้นให้ reboot เครื่อง แล้วเราก็จะได้ TouchWiz ตัวใหม่ครับ

หลังจากติดตั้งแล้วจะได้โฮมสกรีนที่เป็นตัวเดียวกับ Samsung S3 จากความรู้สึกผมว่าลื่นกว่าของ S2

ส่วนที่ไม่ชอบที่สุดคือโฟลเดอร์ น่าจะทำได้สวยกว่านี้

มีวิดเจทบน AppDrawer ด้วยครับ

ที่ต่างไปจาก S2 อยู่อย่างหนึ่งคือ ใน AppDrawer จะเห็นไอคอน 5 แถว โดยตัดไอคอนแถวล่างออก

สรุป
การใช้งานโดยรวมๆ ผมว่ามันดูซับซ้อนกว่าเดิม เพราะมีฟังชั่นเพิ่มมามากกว่า แต่ที่ประทับใจคือความลื่นไหลและดูสวยงามกว่าจนไม่ต้องไปหา Launcher ตัวอื่นมาลงอย่างที่ชาว Samsung Galaxy ทำๆกัน

วิธีดังต่อไปนี้ คือการทำให้เครื่องแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนซิม

เริ่มต้น

1. ตั้งค่า >> ตำแหน่งและระบบป้องกัน >> การเตือนการเปลี่ยนซิม
2. แล้วกด “ผู้รับข้อความแจ้งเตือน”
3. จากนั้นให้เข้าระบบด้วยบัญชีของซัมซุง (ถ้ายังไม่มีบัญชีก็ให้สมัคร)

1. เมื่อเข้ามา ให้เราใส่เบอร์โทรของคนที่จะรับข้อความเมื่อมีการเปลี่ยนซิม อาจจะเป็นเบอร์เพื่อนหรือเบอร์ของคนในครอบครัว
2. หมายเลขที่ใส่ จะต้องใส่รหัสประเทศลงไปด้วย เช่น +66 เป็นของไทย
3. สมมุติว่าเป็นเบอร์ 0812345678 ให้เปลี่ยนเป็น +66812345678
4. ใส่ข้อความที่จะส่งเป็น Sms แต่ต้องเป็นข้อความสั้นๆ

หลังจากตั้งค่าเสร็จแล้ว ถ้ายังลังเล ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่ ให้ทดลองใช้ดูก่อน ด้วยการนำซิมมาเปลี่ยน แล้วดูว่ามันจะส่ง SMS ให้หรือไม่

ตั้งแต่ใช้ Samsung Galaxy S2 มาผมมีปัญหาอยู่อย่างเดียวคือ “แบตหมดไว” ในการใช้งานในโหมดปกติ แต่แม้ว่าปรับเป็น “โหมดประหยัดพลังงาน” แล้วมือถืออยู่ได้นานมากขึ้น แต่มันก็ไม่ใช่โหมดที่เป็นปกติ ความรู้สึกเวลาใช้งานก็เลยเหมือนใช้ได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะเวลาออกไปข้างนอก เวลาต้องรออะไรนานๆ แต่อยากจะเล่นเกมส์แรงๆหนักๆก็หวั่นขากลับไม่เหลือแบตไว้ใช้โทร

Samsung S2 ก็เลยเหมาะที่จะเอาไปใช้ในสถานที่ที่ชาร์ทไฟได้ เช่น ที่ทำงาน แต่ถ้าเดินทางออกไปที่ไกลๆ แล้วใช้ Samsung S2 ระหว่างทาง อาจจะใช้ได้ไม่นานเท่าไหร่ โดยเฉพาะถ้าเปิด Edge/3G/Wifi ไว้ด้วยแล้ว เครื่องจะสูบแบตเร็วเป็นพิเศษ

จากปัญหาแบบนี้เลยทำให้รู้สึกว่าใช้ Samsung S2 ได้ไม่เต็มที่ ผมเคยใช้ Samsung Fit มาก่อน ซึ่งไม่เคยมีปัญหาแบบนี้ แต่กลับ Samsung S2 มันคนละเรื่องเลย แต่เครื่องผมไม่ได้เป็นอยู่เครื่องเดียวอ่ะนะ Samsung S2 คนอื่นๆหลายคนก็เป็นกัน และไม่ใช่แค่มือถือ Samsung มือถือ Android หลายๆรุ่นก็มีปัญหาแบบนี้ แต่ผมว่า Samsung S2 มันสูบแบตเยอาะที่สุดแล้ว จนต้องชาร์ททุกวัน

จะเอาไงต่อ….

สุดท้ายแล้ว ก็คงต้องใช้ๆไปก่อน เพราะ Samsung S2 มันก็มีดีของมันอยู่ คือจอใหญ่และเล่นแอพได้หลายแอพ แต่มาตายที่แบตหมดไว

มือถือเครื่องต่อไป…

ถ้าจะมีเครื่องใหม่ ผมคงเลือกที่มันมีแบตทนๆ ใช้ได้นานหน่อย แต่จะเป็น Samsung หรือไม่ คิดว่าจะพอแค่นี้ สำหรับมือถือยี่ห้อนี้ แม้ว่า Samsung S2 จะสเปกดี จอใหญ่ ถ่ายรูปสวย แต่เรื่องแบตผมทนไม่ไหวจริงๆ

โดยปกติผมไม่มีปัญหาหรอกว่าใครจะหยิบโทรศัพท์ผมไม่ใช้ เพราะมันไม่มีข้อมูลลึกลับอะไรให้ต้องค้นหา แต่สำหรับคนที่มีความกังวลว่าเพื่อนหรือคนอื่นๆที่เปิดมาอาจจะทำให้พบ “ความลับ” ซึ่งอาจจะเป็นรูปภาพ คลิป หรือเบอร์โทรคนพิเศษ ที่ไม่อยากให้ใครรู้ …แม้แต่กับแฟน

วิธีป้องกันที่นิยมใช้คือ “ตั้งค่าการปลดล็อคหน้าจอ” โดยปกติ Samsung Galaxy S2 จะปลดล็อคง่ายๆด้วยการเลื่อนหน้าจอออก แต่เราทำให้ยากกว่านั้นได้ ด้วยการใส่รหัสหรือจะใช้วิธีลากจุด

วิธีทำ
เข้ามาที่ ตั้งค่า >> ตำแหน่งและระบบป้องกัน >> ตั้งค่าการล็อคหน้าจอ

เลือกรูปแบบการล็อค

1. ไม่มี – ยกเลิกการตั้งค่า
2. รูปแบบ – วาดรูปเพื่อปลดล็อค
3. PIN – รหัสผ่านตัวเลข
4. รหัสผ่าน – รหัสผ่าน

ในกรณีที่เลือก “รูปแบบ” จะเป็นการปล็ดล็อคด้วยการวาดเส้น วิธีนี้ผมชอบที่สุด

ส่วน PIN กับ รหัสผ่าน จะต่างกันตรงที่ PIN ใส่ได้แต่ตัวเลข ส่วนรหัสผ่านได้ทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ แต่ใส่เฉพาะตัวเลขไม่ได้

แต่…ถ้าคุณลืมรหัสผ่าน หรือจำวิธีปลดล็อคไม่ได้ คงต้องเอาเครื่องเข้าศูนย์เลยนะครับ

และ วิธีนี้ช่วยป้องกันขโมยไม่ได้นะ กันไม่ให้คนใช้ได้อย่างเดียว