คือมันเป็นเกมที่สนุกมากนะ ตลอด 7 วันมานี้ เล่นจนไม่ค่อยได้ทำงาน ผมชอบมาก มันเป็นเกมที่เล่นสนุก มีการวางแผน มีการอ่านใจ ใช้ไหวพริบ และได้รู้จักฝีมือการเล่นของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะ Dota 2 ผสมไอเทมได้ง่ายกว่าเดิม ใช้สกิลง่ายขึ้น ภาพสวย และอัตราการออกจากเกมนี้น้อย เพราะถ้าใครออกจะเข้าเกมครั้งต่อไปได้ยากขึ้น โดยรวมคือสนุกมากขึ้น ส่วนใหญ่เล่นกันถึงนาทีสุดท้าย

เพราะ Dota 2 มันสนุกกว่าเดิม จนไม่สามารถยั้งใจได้ เลยตัดสินใจ “ลบเกมทิ้ง” ซึ่งเป็นวิธีที่ผมเคยใช้ ทุกๆ ปีถ้าได้เล่นเมื่อไหร่ แล้วรู้สึกหยุดไม่ได้ ผมจะตัดสินใจลบทิ้ง ทั้งๆที่ยังรู้สึกติดใจอยู่ ผมลบทิ้งเมื่อสองวันก่อน คืออยู่ในช่วงที่กำลังพีคเลย ผมเล่น Weaver ฆ่าได้คนเดียว 19 ศพ ตายสอง ทำให้ทีมชนะ ผมเล่นตัวนี้แล้วรู้เทพกว่าตัวอื่นที่เคยเล่นมา คือเล่นตัวนี้ มีชนะบ้างแพ้บ้าง แต่เล่นแล้วได้คะแนนสูงเลยชอบ

วันนั้นผมเล่นหลายเกมติดต่อกัน เลยพักสายตาแล้วเช็คดูอีเมล์ เปิดดูเว็บอ่านข่าว ก็รู้สึกตกอะไรไปเยอะ พอดูวันนี้ก็รู้สึกว่าเวลามันไปเร็วมาก ก็มีความคิดหนึ่งเข้ามาว่า “ลบเกมนี้ไปเลยดีกว่า” จากนั้นก็เปิด CCleaner ขึ้นมา แล้วทำการลบ Dota 2 และ Stream ออกไปจากคอม

แต่ยังมีเกมที่ยังไม่ลบอยู่นะ นั่นก็คือ Fifa online 3 เกมหนึ่งเล่นแค่ 10 นาที วันหนึ่งถ้าเล่นจริงจัง ผมเล่นอย่างมากแค่สิบเกม คือชั่วโมงกว่า ต่างกับ Dota 2 เกมหนึ่งมันก็เป็นชั่วโมง เล่นเกมหนึ่งแล้วรู้สึกไม่พอ เล่นแล้วเสียการงาน เพราะมันห้ามใจไม่ได้

ท้ายสุด
จริงๆก็ยังอยากเล่น Dota 2 อยู่นะ ลบแล้วยังติดใจอยู่เลย แต่จะทำไงได้ ในเมื่อห้ามใจไม่ได้ ก็ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม คือตราบใดที่มีเกมนี้อยู่ในเครื่อง ไม่เคยห้ามใจได้เลย

แนะนำก่อนดาวโหลดภาพ

1. วิธีดาวโหลดภาพ
2. วิธีอัพโหลด เปลี่ยน และลบรูป Cover บน Facebook

ก่อนจะเล่น DotA ผมยังงงๆว่าจะสนุกยังงัย  เพราะสู้ไปแล้วต้องมาเริ่มเล่นใหม่แบบนับ 1 อีกครั้ง …แต่ก็นี่แหล่ะที่คือสเน่ห์ของเกมส์  เกมส์นี้เน้นฝีมือ และเท่าที่เล่นมาก็ไม่ค่อยมีคนโกง  ไม่โกงกันหน้าด้านๆอย่างเกมส์ Special Force

DotaA นี้ไม่ใช่ชื่อเกมส์นะ แต่เป็นชื่อแมพในเกมส์  WARCRAFT 3  ซึ่งเกมส์นี้ก็มีให้เล่นหลายแมพ เหมือนเกมส์แนว RTS ทั่วๆไป แต่ทว่าแมพ DotA มันฮิตที่สุด โดยจุดเด่นของแมพนี้ “บังคับฮีโร่แค่ตัวเดียว ทำงานเป็นทีม สู้กับฝ่ายตรงข้าม”  ถ้าจะให้สนุกต้องเล่นออนไลน์ จะรวมทีมกันกับเพื่อน หรือเล่นคนเดียวแล้วไปรวมกับคนอื่นๆในแมพก็ได้

ผู้เล่นแต่ละคนก็น่าจะมีฮีโร่ที่ชื่นชอบ ผมก็ชอบอยู่หลายตัว แต่ชอบมาที่สุดตัวหนึ่งคือ Strygwyr (เรียกกันในเกมส์ว่า Blood) มันเกิดมาเพื่อฆ่า  โดยเฉพาะสาย Int หรือพวกที่ใช้เวทย์มนต์เป็นหลัก จะรู้สึกยำเกรงเป็นพิเศษ  เพราะมีสกิล Bloodrage ห้ามไม่ให้ใช้เวทย์ เป็นเวลาสูงถึง 9 วินาที  และสกิล Rupture ช่วยหยุดการเคลื่อนไหว

ตามประวัติ เป็นครึ่ง ปีศาจครึ่ง Orc , Strygwyr จึงไม่สามารถอยู่ร่วมกับทั้ง 2 สายเลือดได้ไม่มีใครยอมรับจึงถูกขับไล่ออกจากเผ่า และก็ได้เข้าร่วมกับฝ่าย Scourge ใช้ความสามารถของเขาควบคุมพลังและชีวิตของศัตรู สังหารทุกคนที่จะมาขัดขวาง

ข้อมูลเบื้องต้นของ Blood

ความน่ากลัวของ Blood ผมว่าอยู่ที่ใครจะได้เล่นคู่กันมัน เพราะ  DotA ไม่ได้ถูกสร้างมาให้เล่นคนเดียวอยู่แล้ว  และคู่หูที่น่ากลัวก็ควรจะเป็นประเภทยิงไกล ในช่วงต้นเกมส์  จะช่วยกดฝ่ายตรงข้าม  และถ้าในทีมมีเจ้าหมูโหด Barathum จะยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก ฝั่งตรงข้ามออกมาฟาร์มแล้วเลือดเหลือน้อย  หมูโหดล็อคเป้าได้สบายๆ

ผมเคยใช้ Blood จับคู่กับ Kel’Thuzard (Lich) สองตัวนี้เป็นคู่หูที่น่าจะยอดเยี่ยมมาก ให้ Lich ตอดไปเรื่อยๆ พอถึงจังหว่ะแล้ว Blood ไล่ฆ่า หรือจะจับคู่กับใครก็ได้ที่มีสกิลแรงๆ ช่วงต้นเกมส์และกดฝั่งตรงข้ามได้ Blood มันโหดก็จริง แต่ช่วงต้นเกมส์มันอ่อนแอมาก  …แต่ว่าพอได้เวล 6 มันจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน คือเริ่มล่าแต้มได้ทันทีที่มีโอกาส

ผมเคยใช้ Blood ฆ่าได้สูงสุดในเกมส์ 10 กว่าตัว ช่วยเพื่อนอีก 10 กว่าครั้ง  แต่ยังไม่เข้าขั้น Hod (โหด) อ่ะนะ โหดต้องมากกว่านี้ แต่อยู่ทีมด้วยล่ะ ถ้าทีมมีครบเซต(คำว่าครบเซตผมคือมีคนสตั๊นและเข้าแทงค์ได้สักคน)และไม่เกรียนจนเกินไป ต่อให้คู่ต่อสู้โหดก็อาจจะชนะยากจนเกมส์นั้นเป็น GG คืออยู่สู้กันจนจบเกมส์

ส่วนเกมส์ที่แพ้แบบหมดรูปก็มี โดยเฉพาะเวลาเล่นกับฮีโร่แปลกๆ บางทีก็ไม่รู้ว่ามันจะฆ่า จะใช้สกิลกับเรายังงัย บางเกมส์เพื่อนก็ออกก่อน บางเกมส์เพื่อนเป็น ATM  และบางเกมส์เราก็เป็น ATM เสียเอง  แต่เล่นเกมส์ไหนๆก็ได้ฆ่าไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ผมถึงชอบ Blood

เวลาเล่น Blood ฮีโร่ที่ผมยำเกรงคือพวกที่โจมตีแรงๆ ไอเทมโหดๆ (โหดมาจากการไล่ฆ่าเพื่อนฝั่งตรงข้ามได้) ถ้ามันได้จับคู่กับผม ผมคงไม่ปล่อยให้มันโหดได้ขนาดนั้น โดยเฉพาะ Soul Keeper ถ้าปล่อยให้มันฟาร์มจนเทพ รู้สึกจะชนะยากจริงๆไม่ว่าจะเล่นกับทีมไหน

ส่วนฮีโร่ตัวอื่นๆ เดี๋ยวจะเอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟังทีหลัง ใครชอบตัวไหน มาแชร์กันได้ที่โพสนี้ครับ

เกรียน 1.0

คำว่าเกรียนผมได้รู้จักความหมายมันครั้งแรกตอนที่เล่นเกมส์ Dota เกมส์นี้เป็นเกมส์ออนไลน์ที่รวมคำด่าของผู้เล่นไว้สารพัด คำที่ฮิตคือ Noob กับ Grean คำว่า Noob ใช้เรียกมือใหม่ อ่อนหัด  Grean หรือ เกรียน คืออ่อนและชอบก่อกวน หรือทำในสิ่งที่คนดีๆเขาไม่ทำกัน  บางครั้งก็คิดว่าตัวเองเก่ง   Noob จึงเป็นคำเชิงดูถูก แต่ “เกรียน” เป็นคำด่าเต็มๆ เป็นคำที่ใช้เปรียบเปยว่ายังเป็นเด็กตัดทรงผมเกรียน และมีความจริงอยู่อย่างหนึ่งคนเล่น Dota แทบทุกคนมักจะถูกด่าด้วยคำนี้มาทั้งนั้น ก่อนที่จะกลายเป็น “Inw” แต่เกรียนในยุคแรก ยังถูกจำกัดอยู่ที่คนเล่นเกมส์ และพบคำนี้บ้างตามบอร์ดสนทนา ไม่กว้างขวาง

เกรียน 2.0

เข้าสู่ยุคเฟื่องฟูของเกรียน คำนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลาย ไม่จำกัดแค่คนเล่นเกมส์ Dota SF และเกมส์ฮิตๆอื่นๆ มันถูกแทรกซึมไปเกือบจะทุกวงการทั้งโลกออนไลน์และโลกแห่งความเป็นจริง  จนกระทั่งเกรียนกลายเป็นหนึ่งในคำด่าคำดูถูกที่ดูธรรมดาๆ ไม่ใช่ศัพท์เฉพาะของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง  ถูกเอาไปตั้งไปชื่อหนังก็มี มีการพูดออกทีวีบ้าง

การเปลี่ยนแปลงของเกรียนในยุคนี้ คือนิยามของเกรียนกว้างขวางขึ้นมาก เช่น พวกเรียกร้องความสนใจ มั่นใจตัวเองสูง ไม่มีมารยาททางสังคม อดทนน้อย ชอบสร้างข้อขัดแย้งที่ไร้เหตุผล  ทำตัวหน้าหม้อไม่ถูกกาละเทสะ ชอบใช้แต่กำลัง เก่งแต่ในเน็ต ชอบด่าคนอื่นว่าเกรียน พวกดักควายฯลฯ

เกรียน 3.0

ปัจจุบัน ยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ค เติบโต เฟื่องฟู เกรียนมีพัฒนาการไปอีกขั้น  คือโลดแล่นและแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วบน Facebook – Twitter เนื่องจากมีคนใช้เน็ตมากขึ้น  และแน่นอนว่าคนหัดใช้ก็มีมากขึ้น  แต่โลกออนไลน์มันมีทั้งคนที่หวังดีและคิดร้ายปะปนกันอยู่จนแยกไม่ออก การกำเนิดเกรียนบนสังคมออนไล์จึงไม่ใช่เรื่องยาก เช่น ถูกหลอกซื้อ iPhone 5 ปลอม ทั้งๆที่ของจริงยังไม่มีขาย หรือแชร์ข้อความหลอกลวงลูกโซ่ ด้วยเหตุผลถ้าไม่แชร์ จะมีผีมานอนด้วย

จุดเด่นของเกรียน 3.0 คือพฤติกรรมที่ส่งต่อกันได้ง่ายและรวดเร็ว ผ่านสังคมออนไลน์ อย่างเฟสบุ๊ค ทั้งผู้หญิงผู้ชายก็เกรียนกันได้ง่ายๆ ที่สำคัญพฤติกรรมเกรียนในยุคนี้ ไม่ได้จำกัดว่าเป็นพฤติกรรมที่แย่เสมอไป แต่หลายคนเกรียนได้ เพราะรู้ไม่เท่าทัน  อย่างเช่นกรณีที่มีข่าวว่าเฟสบุ๊คจะปิดตัว ข่าวมั่วนี้ทำให้เกรียนแตกกันไปหลายคน

อย่างไรก็ตาม เกรียนไม่ใช่พฤติกกรรมถาวร เกรียนแล้วไม่ใช่จะเกรียนกันตลอดชาติ เกรียนจะมาบางจังหว่ะ เกรียนไม่ใช่คำด่าคำดูถูกที่รุนแรง บางครั้งมันเป็นคำที่พูดกันเล่นๆ เท่านั้น ไม่ถือเป็นคำหยาบคายอะไรมากมาย