บล็อก – Makky.in.th http://makky.in.th ถึงเวลา เดี๋ยวเรื่องก็มาเอง Wed, 31 Aug 2016 09:05:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.1.4 ประสบการณ์หาคนมาอ่านบล็อก กรณีเว็บ iPad http://makky.in.th/1014/ Fri, 30 Sep 2011 15:43:43 +0000 http://makky.in.th/?p=1014 หากเทียบกับ 10 ปีก่อนความได้เปรียบของการทำบล็อกในปัจจุบันคือ มีโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นช่องทางเผยแพร่ บล็อกจึงมีโอกาสที่จะโตได้เร็วภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ต่างกันหลายปีก่อนที่การกระจายข่าวทำได้ลำบาก เพราะช่องทางการสนทนาของคนไม่ได้เปิดกว้างมากนัก คุยกันเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ Facebook – Twitter – Google+. เป็นสังคมที่เปิดกว้างขึ้น กระจายข่าวได้เร็วขึ้น

แต่จำนวนเพื่อนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญมากนัก. มีเพื่อนเยอาะไม่ใช่ว่าเพื่อนจะแห่แหนเข้ามาอ่านกัน ถ้าเพื่อนไม่สนใจซะอย่าง ความสำคัญจึงอยู่ที่เราเขียนบล็อกอะไร

ตัวอย่าง ผมทำบล็อก iPad. เป้าหมายผมก็คือคนใช้ iPad. ในเดือนแรกมีคนมาอ่านอยู่นิดเดียว เพราะคนยังไม่รู้จัก เดือนต่อมาก็เท่าๆเดิม คนไม่ค่อยมาอ่าน แต่มีมาอยู่ทุกวัน ช่องทางการเผยแพร่ของผมคือเฟสบุ๊คกับทวิทเตอร์ ปัญหาคือเพื่อนที่ใช้ iPad มีไม่มาก และเพื่อนที่ใช้ iPad ทุกคนคงไม่ได้แวะมาบล็อกทุกคน ในสองเดือนแรกเนื้อหาบล็อก iPad ก็ยังไม่ได้รับหารบอกต่อ …ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาคนอ่านกลุ่มอื่นๆ

เว็บที่กล่าวถึง Thaipad.maahalai.com

ผมได้หาด้วยการเข้าไปสืบดูว่ามีเว็บไหนที่เกี่ยวกับ iPad. เขาพูดคุยอะไรกัน ก็เข้าไปร่วมวงการสนทนา ในยามที่มีโอกาส เช่น มีการตั้งกระทู้ถาม ก็ร่วมเข้าไปตอบคำถาม พร้อมแนะนำสาระจากเว็บที่เกี่ยวข้อง ย้ำว่าเกี่ยวข้องเท่านั้น และไม่ฟุ่มเฟือย และไม่ PR เว็บทุกครั้งที่เข้าไปตอบคำถาม เอาเฉพาะที่จำเป็น ถ้ามากจะกลายเป็นสปามและดูไร้ประโยชน์

จากการไปหาคนอ่านตามเว็บอื่นๆ จากผู้ชมเฉลี่ยวันละร้อยสองร้อย พัฒนาขึ้นมาเป็นสองพันปลายๆถึงห้าพันกว่าคน ต่อวัน ในเวลาไม่กี่วันและอาศัยความต่อเนื่องคนจำได้คนก็กลับเข้ามา

นอกจากการ PR ผ่านการสนทนา ยังได้ทำป้ายโฆษณากับเว็บในเครือข่าย แม้จะได้คนอ่านไม่มาก แต่ก็มีเข้ามาบ้าง คนที่เพิ่งซื้อ iPad. พอเขาจำได้ว่าเห็นป้ายก็อาจจะแวะมา และแม้แต่คนไม่มี iPad ถ้าสนใจก็อาจจะเข้ามาตามป้ายโฆษณา

ส่วนเฟสบุ๊ค-ทวิทเตอร์ ผมได้มองว่ามันจะไม่สำคัญอีกต่อไปกับบล็อก iPad. แต่มันถูกใช้เป็นช่องทางการสนทนาจากคนที่เข้าบล็อก iPad แม้พลังการ PR บล็อกจะยังไม่มาก แต่จะเป็นทีทำให้เห็นตัวตนของคนที่สนใจชัดเจนขึ้น ก่อนที่คนไทยจะฮิตเฟสบุ๊คนะ…ช่องทางการรวมแฟนคลับมีไม่มาก ส่วนใหญ่ให้สมัครสมาชิกเว็บ แต่เว็บยุคใหม่ มีกล่อง Like มีทวิทเตอร์ ทำให้รู้ว่าใครสนใจสิ่งที่เราทำ เป็นที่รวมกลุ่มคนที่สนใจ  นี่คือความสะดวกของบล็อกเกอร์ยุคปัจจุบัน….ที่เหลืออีกอย่างคือ “ความน่าสนใจของเนื้อ” บล็อกมีดียังงัยคนถึต้องเข้ามา ประเด็นนี้ควรคิดก่อนจะหาคนมาอ่านด้วยซ้ำไป

]]>
บล็อก VS บอร์ด http://makky.in.th/607/ http://makky.in.th/607/#comments Sun, 26 Jun 2011 16:30:42 +0000 http://makky.in.th/?p=607

ก่อนที่ผมจะหันมาทำเว็บ ยอมรับเลยว่าแยกแยะสาระบนเว็บไม่เป็นเลยว่า อันไหน “จริง” อันไหน “เทียม”  ของจริงในความหมายผมคือ เนื้อที่เขียนขึ้นมาเอง จากเว็บนั้นๆ  ของเทียมคือ เนื้อหาที่ไปลอกเขามา ไม่อ้างอิงที่มา เผลอๆมีการดัดแปลงจากต้อนฉบับ  ของเว็บฝรั่งมีเยอาะมาก ของเว็บไทยก็ไม่ใช่น้อย  ผลเสียที่เกิดขึ้นคือ ข้อมูลที่ได้มาอาจจะไม่ถูกต้อง เช่น เอาข้อมูลจริงมาดัดแปลงบางส่วน หรือก็อปมาไม่อ้างเครดิต แล้วถ้าไปคอมเม้นถาม ก็อาจจะไม่ได้รับการตอบกลับ เพราะเป็นข้อมูลคนอื่น

เว็บบอร์ดไทยส่วนใหญ่ เท่าที่สังเกตจะเป็นข้อมูลเทียม คือไปเอามาจากเว็บหรือจากบล็อกต่างๆ มารวมๆเป็นเนื้อหาในบอร์ดของตัวเอง หลายเว็บผมเห็นไม่มีการอ้างอิงที่มา  แม้แต่เว็บผมเอง บางอันโดนก็อปไป แล้วไปลบแบนเนอร์เว็บออก  บางเว็บภาพเขามีแบนเนอร์อยู่แล้ว ก็เอาแบนเนอร์ตัวเองไปใส่ทับซ้ำ  ผมว่ามันเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมาก

แต่เว็บบอร์ดดีๆก็มีไม่น้อย และองค์ความรู้หลายๆอย่างก็เกิดมาจากการสนทนา ถามกันไปมาในบอร์ด เมื่อมีคนเข้ามาตอบก็กลายเป็นความรู้ใหม่ ของคนที่เข้ามาอ่าน บางบอร์ดมีการแชร์ประสบการณ์จริงๆ จากสมาชิก  ผมล่ะคนหนึ่งที่เลือกเข้าบอร์ดเวลามีปัญหา

ส่วนเว็บบล็อก นั้นดูไม่ยากว่าบล็อกไหนของจริง เขียนเอง สังเกตจากภาษาที่ใช้ เนื้อหาที่เขียน หลายๆเรื่องมันบอกถึงตัวตนของเจ้าของบล็อกนั้นๆ  และที่สำคัญ บล็อกไหนเขียนเอง สังคมจะให้การยอมรับ มีการบอกต่อ ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ครวมทั้งเป็นที่ยอมรับของคนในแวดวงนั้นๆ เช่น ไอที มือถือ ประวัติศาสตร์ การทำอาหาร เป็นต้น

แต่เว็บบล็อกเทียมๆก็มีเยอาะ บางเว็บลอกเขาทั้งดุ้น ไม่มีเขียนเอง เว็บเทียมๆส่วนใหญ่ เขาจะใช้บริการของ Blogspot เป็นบล็อกใช้ฟรี และใช้งานง่ายมากๆ ผมเองก็เริ่มต้นจากการบล็อกเกอร์ด้วย Blogspot  ทีนี้แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเขาก็อป หรือเป็นคนเขียน  ดูง่ายๆถ้ามีอ้างอิงตอนท้าย ก็แปลว่าเอาของคนอื่นมา แต่บางบล็อกลอกมาแบบไม่ให้เครดิตอันนี้ก็ดูยาก  แต่อาจจะดูจากภาพรวมของบล็อก…ซึ่งมันก็ดูยากนะ  ผมอธิบายวิธีดูไม่ถูก

คราวนี้มาดูความต่างของบล็อกกับบอร์ด  บล็อกส่วนใหญ่จะเขียนคนเดียว เขียนไม่กี่คน แต่บล็อกไอทีหลายๆบล็อก ร่วมกันเขียนหลายคน และเป็นข้อมูลต้นฉบับหรือเป็นข้อมูลที่แปลโดยเขียนเป็นภาษาตัวเอง ส่วนบอร์ด ส่วนใหญ่คือเขียนกันหลายคน มีข้อมูลที่เขียนเองบ้าง ก็อปมาบ้าง ปะปนกันไปหมด แยกแยะได้ยาก แต่บอร์ดไหนบอร์ดคุณภาพ สังเกตได้จากเมื่อไปตั้งคำถาม แล้วจะมีผู้รู้มาช่วยกันตอบ

ความต่างอีกอย่างระหว่างบล็อกกับบอร์ด คือ บล็อกที่เขียนคนเดียว ส่วนใหญ่จะมีการเปิดเผยตัวตนเจ้าของบล็อกผ่าน Facebook หรือ Twitter  แต่บล็อกที่ไปลอกเขามา หลายๆบล็อกไม่แสดงตัวตนว่าใครเป็นเจ้าของ

สรุปความต่างของทั้งสอง จะส่งผลต่อการค้นหาข้อมูล ตามเว็บว่า เราจะได้ข้อมูล จริง หรือ เทียม มาใช้อ้างอิงงาน  เพราะถ้าอ้างอิงไม่ถูกจะส่งผลเสียต่อเจ้าของผลงาน หรือแม้แต่ตัวคุณเอง ที่อาจได้ข้อมูลมั่วๆมาอ้างอิงรายงานของคุณ ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณได้ข้อมูลที่บล็อกนั้นเขียนเอง หรือจากเจ้าของผลงานโดยตรง งานของคุณจะมีความน่าเชื่อถือ  ถูกยอมรับว่าได้ข้อมูลจริงๆมา

]]>
http://makky.in.th/607/feed/ 14
Kom.maahalai บล็อกใหม่ !! รวมคำคมเฟสบุ๊ค http://makky.in.th/346/ http://makky.in.th/346/#comments Mon, 23 May 2011 20:39:16 +0000 http://makky.in.th/346 Kom

เปิดตัวบล็อกใหม่  Kom.maahalai.com เป็นบล็อกกิ้ง ใช้อัพเดทคล้ายๆเล่นทวิทเตอร์ เอาไว้รวมคำคม เฟสบุ๊ค คำคม แรงๆ จาก Facebook บ้าง Twitter บ้าง บล็อกนี้ผมใช้เวลาคิดอยู่นานมากครับ แต่ใช้เวลาทำก็หนึ่งคืน ตอนนี้ก็พยายามอัพเดทเรื่อยๆ

ตอนนี้กำลังสรรหากลยุทธใหม่ ให้กับเว็บ maahalai.com ในฐานะที่เป็นอธิการบดีประจำมหาวิทยาลัยออนไลน์ (พูดซะยิ่งใหญ่) ผมพยายามขยายเว็บให้ใหญ่ขึ้น และกำจัดปลั๊กอิน WordPress ที่มันกินทรัพยากรโฮส ซึ่งตอนนี้ก็จ่ายไปเยอาะแล้ว โดยเฉลี่ยล่าสุดอยู่ที่ 1,400 ต่อเดือน เกือบจะไส้แห้ง เมื่อเทียบกับรายรับ ที่สูงสุดอยู่แค่ 85$ แต่เดือนนี้มีแววทะลุ 100$ หลังจากเปิดตัว “หมูมหาลัย” กับ “คำคม”

บางเว็บที่คาดหวังไว้สูง ก็ยังรู้สึกผิดหวังนิดๆกับ ThaiTube ที่กระแสตอบรับดี แต่ยอด Adsense จิ๋วมาก  ตอนนี้กำลังคิดค้นโปรเจ็คใหม่ เน้นทำเงินมากๆ หลังเรียนจบก็หวังว่า เว็บมาสเตอร์จะเป็นอาชีพหลักไปเลย

]]>
http://makky.in.th/346/feed/ 5