ความรู้ – Makky.in.th http://makky.in.th ถึงเวลา เดี๋ยวเรื่องก็มาเอง Wed, 31 Aug 2016 09:05:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.1.4 ความรู้ที่เห็นในเว็บไซท์ คุณไว้ใจได้แค่ไหน http://makky.in.th/747/ http://makky.in.th/747/#comments Fri, 29 Jul 2011 16:40:14 +0000 http://makky.in.th/?p=747

ผมได้ประสบการณ์จากการหมกมุ่นกับ SEO อยู่สักพักหนึ่ง (ตอนนี้ไม่สนใจละ) ถึงทราบว่า “สิ่งที่เห็นบนเว็บ ยังไว้ใจไม่ได้” บางคนไปก็อบข้อความจากเว็บต่างประเทศ แล้วมาแปลผ่าน Google แปลภาษา ก่อนจะนำมาเผยแพร่แบบดิบๆ บนเว็บ  ด้วยความเชื่อที่ว่า เนื้อหาเยอาะ เว็บเยอาะ เงินก็จะเยอาะ  ….โดยไม่คำนึงถึงคนอ่าน ว่าเขาจะได้อะไรไปจากเว็บแบบนั้น  เพราะ Google แปลภาษา ถึงเวลามันมั่วมันก็มั่วมากๆ

เพราะบางคน “เชื่อง่าย” และมีอยู่เยอาะ  โดยเฉพาะเนื้อหาบนเว็บไซท์  หลอกกันหลาย เจอมาหลายเว็บ เวลาค้นใน google  พอคลิ๊กเข้าไปดู ไม่มีอะไรเลย มีแต่หัวข้อก็มี  …ที่ผมบอกว่ายังมีคนชอบเชื่ออะไรง่ายๆ สังเกตจากการชอบส่งอีเมล์ลูกโซ่  คอมเม้นลูกโซ่ แม้แต่ใน Facebook chat ยังมีข้อความลุกโซ่  ที่พบบ่อยๆ คือคุณผีวาเนลซ่า  เธอบอกว่าจะมานอนด้วยถ้าไม่ส่งต่ออีก 20 ครั้ง  …ถึงวันนี้เธอยังไม่มาหาผมเลย  หรือต้องรอคิวอีกหลายคน

ที่บอกว่า “ไว้ใจได้แค่ไหน” เพราะคนทำเว็บหลายคน ไม่ใช่เจ้าของ “เนื้อหา” ไม่ใช่คนเขียน แต่เอาของคนอื่นมาลง ยิ่งในเว็บบอร์ด มักจะมีการก็อปต่อๆมา ก็อปผิดหรือก็อปถูกผมไม่รู้  แต่ที่แน่ๆ คนทำเว็บบางคนก็อปเนื้อหาคนอื่นมา ดัดแปลงหัวข้อ และแต่งเติมเนื้อหาเพิ่ม  ทำให้ต้นฉบับเปลี่ยน อาจจะผิดเพี้ยน คนอ่านก็อาจได้รับสารเพี้ยนๆไป  …ผมเคยเจอกับเว็บตัวเอง ก็อปไปแล้วดัดแปลง

ผมก็ “คนทำเว็บ” และก็เหมือนคนทำเว็บทั่วๆไป ที่ไม่ได้อ่านแต่เว็บตัวเอง แต่ศึกษาหาความรู้จากเว็บอื่นๆเช่นกัน  เว็บที่ผมเลือกอ่าน ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บเฉพาะทาง  เว็บที่รู้จริงเรื่องนั้นๆ เช่น เว็บเกี่ยวกับสังคมออนไลน์ เนื้อหาก็จะมีแต่สังคมออนไลน์หรือเรื่องไกล้เคียง ไม่ฉีกแนว ที่สำคัญ คนทำเว็บเขาเขียนเอง หรือผู้มีความรู้คนอื่นๆมาร่วมเขียน “ไม่ได้ก็อปเขามา”

ตัวอย่างเว็บไอที ผมเข้า Blognone.com เป็นเว็บข่าว Droidsans.com เว็บตามข่าวมือถือ Android ทั้งสองเว็บ เป็นเว็บไอทีที่คนในวงการยอมรับ  จากการอัพเดทเนื้อหาที่ไม่ได้ลอกใครมา  คนเขียนบล็อกหรือผู้ดูแล มีตัวตนที่ค่อนข้างชัดเจน ในแวดวง

ส่งท้าย เว็บดีๆมีอยู่เยอาะมากครับ เว็บที่น่าเชื่อถือสำหรับผมนะ จะเป็นเว็บที่มีสาระเฉพาะด้าน  ไม่วาไรตี้   เว็บเหล่านี้จะให้สาระที่มีความเข้มข้น ความลึกในแบบที่หาได้ยากตามเว็บบอร์ด   แต่เว็บเหล่านี้อาจจะหาได้ยากหน่อย ผมเองก็ใช้อินเตอร์เน็ตมาหลายปี  แต่ก็เพิ่งมารู้ความจริง “บางอย่าง” ตอนที่มาเป็นเว็บมาสเตอร์

]]>
http://makky.in.th/747/feed/ 12
ความรู้ที่มีทั้งหมด ในการสร้างและจัดการเว็บ http://makky.in.th/664/ Fri, 15 Jul 2011 18:02:42 +0000 http://makky.in.th/?p=664  

แต่เดิมคิดว่าการทำเว็บต้องใช้ Dreamweaver ซึ่งมันยากมากสำหรับผม แล้วก็ทำไม่เคยสำเร็จ  แต่ด้วยแรงจูงใจบางอย่าง ทำให้ผมลองเขียนบล็อกด้วย Blogspot เมื่อสองสามปีก่อน  ทำให้เริ่มรู้จักโครงสร้างคร่าวๆ ว่าการทำเว็บไม่น่าจะยากอย่างที่คิด บล็อกแรกที่ทำเป็นบล็อกเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์   แต่ตอนนั้นยังไม่เป็นบล็อกเกอร์

จุดเปลี่ยนคือหันมาเขียนบล็อก รีวิวแอพมือถือโนเกีย พอเขียนไปได้สักพักเกิดอยากมีเว็บขึ้นมา ก็พยายามศึกษาตามอ่านวิธีสร้างเว็บ ผมก็เริ่มด้วยการสมัครโฮสฟรี และโดเมนฟรี เพื่อทดลองสร้างเว็บ ปรากฏว่าทำสำเร็จ ก็เลยเริ่มต้นด้วยการลงทุนเช่าโฮสและจดโดเมน  เว็บแรกที่ผมทำคือ Lovemaq.com (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเว็บและปิดตัวไปแล้ว)

ตลอดระยะเวลาปีครึ่งที่เป็นเว็บมาสเตอร์ คำถามที่ผมเจอบ่อยๆ  จบอะไร เรียนอะไรมา แล้วคำตอบก็คือ ป.ตรี ประวัติศาสตร์ และกำลังศึกษาโทพิพิธภัณฑ์  เรียนสายนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างเว็บเลย  แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะมีบางอย่างที่ผมนำมาประยุกต์ใช้ได้

องค์ความรู้หลักๆที่ผมใช้สร้างเว็บ

  1. โดเมนเนม
  2. การจัดการโฮส
  3. ติดตั้งและจัดการ wordpress
  4. ภาษา html
  5. ภาษา css  (นิดหน่อย)

ทั้ง 5 อย่างนี้คือสิ่งที่ผมใช้ในการจัดการและปรับแต่งเว็บ มันคือความรู้ที่ผมเรียนรู้เอง โดยหาอ่านเนื้อหาตามเว็บบอร์ด หรือค้นจาก Google  ที่สำคัญคือผมได้ทำ ได้ลองสร้าง  ลองผิดลองถูกหลายครั้ง โดยเฉพาะความล้มเหลว ผมผ่านตรงนี้มาเยอาะกว่าจะทำได้ เพราะไม่ได้เรียนด้านนี้มา

ความรู้ที่มาจากการเรียนประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์

  1. การคิดโดยมีเหตุผล และหลักฐาน
  2. การเขียนงานวิชาการ
  3. การคิดนอกกรอบประวัติศาสตร์
  4. การเขียนงานเชิงวิเคราะห์
  5. การเล่าเรื่อง
  6. การสร้างประเด็น
  7. การตลาดและกลุ่มเป้าหมาย

ทั้ง 7 อย่างนี้คือสิ่งที่ผมได้เรียนมา แต่ละวิชาก็จะมีเนื้อหาสาระที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญมันคือ ประสบการณ์ที่อาจารย์สอน เช่น วิธีคิด การคอมเม้นงานของอาจารย์ผมก็ได้วิธีเขียน  ซึ่งการเรียนสายสังคมจะเน้นการวิพากษ์และวิเคราะห์ และตีความ แล้วเขียนออกมาเป็นเรื่องเป็นราว จึงทำให้การเขียนบล็อกไม่ใช่เรื่องยาก เขียนเล่าอะไรก็ได้ ขอแค่มีความรู้จากสิ่งๆนั้น

การประยุกต์ใช้

บล็อกแรกที่ผมทำคือบล็อกรีวิวแอพมือถือโนเกีย 5800xmz.blogspot.com วิธีการสร้างเนื้อหาผมคือ ใช้งานแอพตัวนั้นจริงๆ แล้วเอามาเล่าให้ฟังพร้อมภาพประกอบว่าใช้ยังไง  เว็บอื่นๆก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการทำหน้า fbml สำหรับ แฟนเพจ , การใช้ iPad, การใช้ Androd, เทคนิคแฮปปี้คนเลี้ยงหมู ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำอยู่ทุกวัน การทำเว็บของผมก็เลยเหมือนกับการนำสิ่งที่ทำอยู่มาเล่าให้ฟัง …นี่คือหลักการของผม

]]>