กลยุทธ์ – Makky.in.th http://makky.in.th ถึงเวลา เดี๋ยวเรื่องก็มาเอง Wed, 31 Aug 2016 09:05:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.1.4 ประยุกต์วิชา Marketing มาใช้กับการทำเว็บ http://makky.in.th/1131/ http://makky.in.th/1131/#comments Sun, 30 Oct 2011 20:59:53 +0000 http://makky.in.th/?p=1131 ส่วนตัวไม่ได้เรียน Marketing มาโดยตรง แต่เรียนมาแบบอ้อมๆ ผ่านการเรียน “พิพิธภัณฑ์” เพราะแนวโน้มการทำพิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ต้องมีการทำการตลาด ไม่งั้นอาจจะไม่รอด   แต่การตลาดที่ผมเรียนมาค่อนข้างพื้นฐาน อาจารย์สอนทฤษฏีมานิดหน่อย แล้วให้ไปคิดไปประยุกต์ใช้เอง เพราะการเรียนในระดับปริญญาโทจะสอนให้คิดเองทำเอง

ย้อนไปหลายเดือนก่อน ผมทำ SEO ควบคู่ไปกับการพัฒนาเนื้อหาในเว็บ วันเวลาผ่านไปรู้สึกว่ามันไม่ยั่งยืน การค้นหามันเปลี่ยนแปลงกันได้ ที่สำคัญการทำ SEO เหมือนทำให้เว็บตัวเองมากกว่า  เลยปรับวิธีคิดใหม่ สร้าง Brand + Marketing โดยเน้นว่าตอบโจทย์ความต้องการของคนเข้าเว็บ

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคนเข้าเว็บเขาต้องการอะไร

  1. ตัวเราเองเคยมีปัญหาอะไร
  2. ตัวเราเองสนใจอะไร
  3. ตัวเราเองถนัดอะไร
  4. ตัวเราเองอยากทำอะไร
เช่น เว็บ facebook.maahalai.com/ ผมทำขึ้นมาเพราะรู้ว่าหลายมีปัญหากับการใช้ Facebook แน่ๆ ส่วนตัวก็สนใจ Facebook และใช้มันทุกวันอยู่แล้ว และที่อยากจะทำคือสร้างฐานความรู้ที่ตอบโจทย์คนใช้ Facebook

ตัวอย่างสถิติการเข้าชมในแต่ละเดือน ด้วยการทำ Marketing  ซึ่งแม้ว่าโดยโครงสร้างจะมี SEO อยู่ก็ตาม แต่การดำเนินการเน้นในเรื่องของ Marketing มากกว่า

จริงๆแล้วการทำการตลาดเว็บ  facebook.maahalai.com/ แค่ชื่อเว็บก็น่าจะพอเห็นภาพ เพราะกลุ่มเป้าหมายชัดเจนว่าเป็นคนที่ใช้ Facebook แล้วผมก็เขียนวิธีการใช้ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการใช้งานขั้นสูง โดยที่จุดเด่นคือเป็นเว็บที่มีภาพประกอบคำบรรยาย เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป

ส่วนการประชาสัมพันธ์ก็ทำผ่าน Facebook ทั้งโปรไฟล์ส่วนตัวและแฟนเพจซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก แล้วยังบอกต่อไปยังผู้ใช้ Twitter กับ Google+ ด้วย แม้ว่าจะเป็นคนละโซเชียลเน็ตเวิร์ค แต่การประชาสัมพันธ์คือการตรอกย้ำว่าเราถนัดด้านนี้ ยิ่งบ่อย ยิ่งเยอาะ ระดับความน่าเชื่อถือจะเพิ่มขึ้น

แต่สำคัญคือจุดเด่นของบทความ เว็บที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับ Facebook มีมากมาย คำถามคือความต่างคืออะไร ทำไมเขาถึงต้องมาอ่านของเรา

วันเวลาผ่านไป บทความจะถูกสะสมพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมจับจุดพฤติคนเข้าเว็บหลายคนได้ว่า เขาไม่ชอบค้นหา บางคนถามโดยที่อ่านไม่ละเอียด เหมือนจะอ่านแค่หัวข้อแล้วก็ตั้งคำถามเลยก็มี   …สิ่งที่ผมทำคือนำมารวมเป็นหมวดหมู่ จัดสาระให้เป็นความรู้ที่ดูมีระเบียบ แม้ว่าในเว็บจะมีการแยกหมวดหมู่ไว้แล้วก็ตาม แต่ส่วนตัวรู้สึกจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ก็เลยทำ central.maahalai.com/  ขึ้นมาตอบคำถามหลายๆอย่าง คนอ่านดูง่ายเพราะเนื้อหาถูกแยกหมวดหมู่ไว้  อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงไปยังสาระอื่นๆ ให้พลอยได้รับอนิสงไปด้วย

สรุปแนวคิดการทำ Marketing ให้เว็บ

  1. เป้าหมายอยู่ตรงไหน เช่น จำนวนคนเข้ามา และเข้ามาอีก หรือจำนวน Like
  2. จะไปให้ถึงเป้าหมายนั้นอย่างไร ทำออกมาเป็นกลยุทธ์
  3. เว็บเราต่างจากคนอื่นยังงัย
  4. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย เขาอยู่ไหน  ประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก และไม่ทิ้งกลุ่มเป้าหมายรอง
  5. จัดระเบียบสาระที่มีอยู่อย่างกระจายกระจาย ทำช่องทางเข้าถึงอย่างสะดวก
 Marketing กับ SEO ไม่เหมือนกันนะ เพราะการตลาดคือเน้นตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และทำไปอย่างมีกลยุทธ์
]]>
http://makky.in.th/1131/feed/ 7
กลยุทธ์การดูด Like สำหรับแฟนเพจขายของ http://makky.in.th/955/ http://makky.in.th/955/#comments Fri, 16 Sep 2011 17:47:58 +0000 http://makky.in.th/?p=955  

มีคนมากมายเข้ามาแนะนำแฟนเพจขายของ ส่วนใหญ่เป็นเพจใหม่ หลายเพจก็เปิดมานาน บางเพจมีคน Like. เป็นหมื่น ทั้งๆที่เป็นธุรกิจเล็กๆ ธุรกิจส่วนตัวไม่ใช่แบรนด์เนม แต่พอเข้าไปดูถึงกับอ๋ออ…ที่แท้ก็

แนวคิดการประชาสัมพันธ์เพจในเบื้องต้นคือ ไปโพสฝากเพจตามแฟนเพจยอดนิยมต่างๆ สำหรับผมนะมันเป็นแค่การหัดเดิน หลายเพจเลือกที่จะเดินอย่างกระท่อนกระแท่น แต่บางเพจเขาวิ่ง บางเพจเขาเลือกที่จะขึ้นเครื่องบิน วิ่งฉิวไปในโลกธุรกิจบน Facebook

การวิ่งสำหรับผมคือการคิดกลยุทธ์ที่จะดึงคนมากด Like. ผมพูดในฐานะลูกค้านะ เพราะยังไม่ได้เปิดร้านขายของกับเขา กลยุทธ์ที่ไม่ใช่แค่การบอกต่อ “ด้วยตนเอง”. แต่ทำให้คนอื่นเขาบอกต่อๆกัน

การคิดกลยุทธ์แต่ก่อนง่าย ให้คนมาประกวดภาพในเพจ ภาพไหนได้ Like.มากก็รับรางวัลไป ซึ่งกลยุทธ์แบบนี้มันทำให้เกิดการบอกต่อมากมาย แต่สิ่งที่แถมมาคือการสร้างความรำคาญและ SPAM การทำกลยุทธ์ในปัจจุบันจึงต้องรอบครอบเพื่อไม่ให้ผิดกฏเฟสบุ๊คและอาจมีปัญหาตามมาภายหลัง


กลยุทธ์ที่ไม่มีวันตายคือ แจกของ แจกกันมาตั้งแต่ก่อนเกิดเฟสบุ๊คเสียอีก เช่น กด Like แฟนเพจลุ้นรับ iPhone 4. iPad 2. เป็นการเอาของที่ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้ามาแจก แต่คนก็ Like กันเยอาะนะ กลยุทธ์นี้ถูกใช้กับหลายแฟนเพจ

แต่ถ้ามีงบน้อยล่ะ …คือไม่มีเงินซื้อ iPhone iPad BB อย่างเพจอื่นเขาทำ อาจจะให้กด Like เพื่อรับส่วนลด กด Like ลุ้นรับสินค้าจากทางร้านฟรีทุกเดือน  หรืออื่นๆที่คุณจะคิดได้ว่าถ้ามีคนมา Like เพจ แล้วจะได้อะไร ไม่ใช่มีแต่จะขาย ควรที่จะทำให้  สมาชิก กับ บุคคลทั่วไป มีค่าไม่เท่ากัน

แต่สิ่งที่เหนือกว่ากลยุทธ์ผมว่าคือ ความน่าสนใจของสินค้า + ความน่าเชื่อถือของแฟนเพจ เรื่องสั่งของออนไลน์ออนไลน์ คนย่อมคิดเป็นธรรมดาว่าจะได้ของจริงมั้ย มันจะได้ของดีจริงอย่างบนแฟนเพจหรือปล่าว

สำคัญคือประชาสัมพันธ์ให้ถูกคน ให้ถูกกลุ่มเป้าหมาย ควรรู้ก่อนว่าจะขายให้ใคร  ผู้ชายหรือผู้หญิง  ราคาสินค้าเหมาะกับกลุ่มคนระดับไหน ไม่ใช่แต่ว่าจะประชาสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ  และควรเรียนรู้ “คู่แข่ง” หรือคนที่ขายของคล้ายๆเรา เขาทำงานอย่างไร เรารู้จักเขาได้อย่างไร

ช่องทางการประชาสัมพันธ์ ถ้าจะให้ดีก็ไม่ควรจำกัดขอบเขตไว้ที่ Facebook อย่างเดียว ไปบอกในเว็บอื่นๆบ้าง เช่นตามเว็บบอร์ด เว็บโฆษณาฟรีต่างๆ  หรือเปิดเว็บไซท์ด้วยซะเลย ก็ยิ่งดี จะเพิ่มความน่าเชื่อถือ

สุดท้ายคือรายละเอียดบนแฟนเพจ ควรจะมีการสร้างเมนูต่างๆ เช่น วิธีการชำระ ช่องทางติดต่อ การสั่งสินค้า เป็นต้น เมนูเหล่านี้ส่วนใหญ่จะสร้างด้วยวิธีที่เรียกว่าการเขียน FBML ถ้าเป็นเจ้าของแฟนเพจ ยังงัยก็ควรเรียนรู้เรื่องเหล่านี้

]]>
http://makky.in.th/955/feed/ 465