Makky.in.th http://makky.in.th ถึงเวลา เดี๋ยวเรื่องก็มาเอง Wed, 31 Aug 2016 09:05:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.1.4 ครบรอบ 1 ปี แชร์ประสบการณ์ใช้งานกล้อง Fujifilm X-T10 http://makky.in.th/3064/ Thu, 30 Jun 2016 09:54:46 +0000 http://makky.in.th/?p=3064 พอดีว่ากล้องมีปัญหายางลอก ว่าจะเอาไปส่งศูนย์เปิดดูใบประกันก็พบว่า “หมดประกันแล้ว” แล้วด้วยเหตุนี้ก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่าเราใช้กล้องรุ่นนี้มาครบ 1 ปีแล้วหรอเนี่ย

1 ปีกับกล้องรุ่นนี้มันให้ประสบการณ์และวิธีคิดใหม่ๆ ถ้าย้อนไปตอนแรกที่ตัดสินใจซื้อ ผมซื้อ Fujifilm X-T10 เพราะชอบเรื่องของไฟล์ภาพ ไฟล์ภาพฟูจิมีเอกลักษณ์ ถ้าถ่ายแบบ Jpeg จะคล้ายๆกับโทนญี่ปุ่น

Fuji-XT10
รูปทรงชั่งงดงาม ปล.รูปนี้ไม่ได้ถ่ายเอง แต่รูปที่เหลือในโพสต์เป็นฝีมือผมจากกล้อง X-T10

อย่างที่สองเพราะดีไซน์ของกล้อง มันมีเอกลักษณ์ดี เป็นเหตุผลหลักๆที่ผมเลือกรุ่นนี้ด้วย เพราะถ้าแคนนอนทำกล้องดีไซน์แบบนี้ ผมอาจจะเลือกแคนนอนก็ได้ ขอให้เป็นแนวเรทโทรเหอะ

ทีนี้มาดูว่า 1 ปี ผมได้อะไรจากกล้อง Fujifilm X-T10 บ้าง

1. ระบบถ่ายภาพแบบย้อนยุค

ไม่ใช่แค่ตัวกล้องที่ดูย้อนยุค วิธีตั้งค่าถ่ายรูปก็ดูย้อนยุคไปด้วยนะ ..แต่ผมชอบนะ ชอบวิธีแบบนี้

กล้องยุคใหม่จะมีโหมด P A S M ข้อดีคือหมุนวงแหวนครั้งเดียว ก็เข้าสู่โหมดการตั้งค่านั้นๆแล้ว

แต่ X-T10 คือการถ่ายแบบแมนน่วล มันไม่มีวงแหวนให้เลือกโหมด แต่เอาเข้าจริงเวลาถ่ายรูปผมไม่คิดถึงโหมด P A S M อะไรนั่นเลย คิดถึงแบบว่าสถานการณ์ถ่ายรูปแบบนี้จะไปปรับค่าตรงไหน

เช่น ต้องการเบลอฉากหลังมากๆ ผมก็จะหมุนวงแหวนรูรับแสง หรือจะถ่ายรูปเด็กวิ่งเล่นก็หมุนปรับสปีดชัตเตอร์ (ในหัวคิดจะไม่มีคำว่า P A S M เลย)

Photo Sample Fuji-XT10
สถานที่ที่ไปฝึกถ่ายรูปบ่อยๆคือโรงเรียน

2. ไฟล์ภาพที่พึงพอใจ

พอถ่ายรูปไปสักพัก คำว่ากล้องฟูลเฟลมมันวนเวียนอยู่ในหัวเหมือนกันนะ เท่าที่ดูภาพมันก็คมและดูมีมิติมากกว่าของฟูจิจริงๆ

แต่สุดท้ายก็ยังเลือกที่จะอยู่กับเซนเซอร์ APSC ของฟูจิ เพราะสไตล์การถ่ายผมไม่ได้เน้นภาพวิว ภาพสถานที่ อาคาร อะไรทำนองนั้น ถ้าถ่ายภาพพวกนี้กล้องฟูลเฟลมทำได้ดีกว่าแน่นอน

แต่ผมถ่ายแบบเน้นพวกธรรมชาติ ดอกไม้ใบหญ้า พอร์ทเทรต และวิถีชีวิต กล้องฟูจิถือว่าถ่ายภาพพวกนี้ได้โดยไม่รู้สึกว่าต้องการอะไรมากมายไปกว่านี้ ที่สำคัญผมต้องการกล้องที่หยิบขึ้นมาถ่ายในแหล่งชุมชนและตามร้าน โดยที่มันไม่ดูเป็นทางการ

ประเด็นหลังนี้ทำให้หยุดชะงักเรื่องฟูลเฟรมเลยนะ กล้องที่อยากได้คือ Sony A7II แต่เห็นขนาดเมื่อใส่กับเลนส์ที่อยากได้แล้ว รู้สึกว่าจะไม่เป็นมิตรกับประชาชนเท่าไหร่

แต่ถ้าอนาคตจะย้ายค่ายไปไหน ก็คงไม่พ้น Sony กล้องฟูลเฟรมหล่อ ไฟล์ภาพคม เอามือหมุนมาถ่ายออโต้ได้อีก ..สเปคมันช่างโหดร้ายมาก (แต่เอาไว้เผื่อได้เป็นช่างภาพมืออาชีพดีกว่า แล้วค่อยคิดอีกทีจะย้ายไม่ย้าย)

Photo Sample Fuji-XT10
ถ่ายบ่อยๆก็ภาพธรรมชาติที่ดูนามธรรม

3. สไตล์การถ่ายที่ชัดเจนมากขึ้น

ก่อนซื้อกล้องรู้แค่ว่าอยากเอามาถ่ายรูป แรกๆก็เอามาถ่ายทั่วไป คน สัตว์ สิ่งของ วิว ฯลฯ แต่พอถ่ายไปสักพักสไตล์การถ่ายก็เริ่มชัดเจน เริ่มรู้ว่าชอบถ่ายมุมมองแคบๆ ฉากหลังเบลอๆ

ส่วนหนึ่งเพราะเวลาที่ถ่ายรูปผมเน้นปรับค่ารูรับแสง นอกนั้นจะปล่อยออโต้ ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวไหน และสถานที่ที่ผมอยู่ไม่ใช่แหล่งที่มีวิวสวยงาม

Photo Sample Fuji-XT10
มีหลานสาว เป็นนางแบบประจำตัว

4. ได้รู้ว่าราคาเลนส์ค่ายนี้ไม่ธรรมดา

ถ้าเทียบราคาเลนส์ฟูจิกับเลนส์เกรดโปรค่ายอื่นๆ ถือว่าไม่แพงเลย ราคาถูกกกว่าด้วยซ้ำไป

แต่ที่บอกว่าไม่ธรรมดา เพราะค่ายนี้ไม่มีเลนส์ฟิกเกรดธรรมดาให้เล่น อย่างของแคนนอนจะมีเลนส์ระยะ 50mm ให้เลือกหลายราคา มีตังค์สองสามพันก็หาซื้อมาฝึกถ่ายพอร์ทเทรตได้แล้ว

ส่วนของฟูจิเลนส์ถ่ายพอร์ทเทรตถูกสุด 60mm f2.4 ราคา 8,900 บาท ดีขึ้นมาหน่อยก็ 35mm F1.4 ราคา 19,900 บาท ..แต่จะพอร์ทเทรตจริงๆยังงัยก็ต้อง 56mm F1.2 ราคาปกติ 34,900 บาท และยังมีอีกหลายเลนส์ที่ราคาไม่ใช่น้อยๆสำหรับมือใหม่หัดถ่าย

Photo Sample Fuji-XT10
ชอบถ่ายแนวสตรีท แต่ไม่ค่อยมีโอกาส

5. กล้องที่เป็นมิตร

เป็นเพราะกล้อง X-T10 มีขนาดเล็ก เลยหยิบไปถ่ายในร้านอาหารและตามสถานที่ต่างๆได้แบบไม่เคอะเขิน อารมณ์คล้ายๆหยิบมือถือมาถ่ายรูป เหล่า รปภ. ไม่ได้สนใจเท่าไหร่

แต่ด้วยที่มีขนาดเล็กตอนแรกขอบอกเลยว่าจับไม่ค่อยถนัดมือเท่าไหร่ แต่ผมไม่ใช่คนมือใหญ่ พอใช้ไปสักรู้สึกปรับตัวได้ ถึงตอนนี้รู้สึกว่าจับได้ถนัดมือโดยไม่ต้องใส่อุปกรณ์เสริมใดๆ

Photo Sample Fuji-XT10
ตั้งแต่มีกล้องก็เริ่มอยากเที่ยว

เลนส์ติดกล้อง

กว่า 90% ผมใช้ XF 35mm f1.4 ถ่ายภาพ มุมค่อนข้างแคบ เบลอฉากหลังได้ ถ่ายคน ดอกไม้ อาหาร ถือว่าโอเค อนาคตอยากได้ 23mm ไว้ลุยสตรีท แต่อยากได้ตัว 23mm f2.0 มากกว่าตัว f1.4 เพราะบ้องใหญ่เกินไป (แต่ตัวนี้ยังเป็นข่าวลืออยู่ ก็ภาวนาให้ออกมาจริง)

Photo Sample Fuji-XT10
มุมกว้างๆไม่ค่อยถ่าย ชอบมุมประมาณนี้

ปัญหาที่พบ

ผมเคยใช้ FinePix HS35EXR ของฟูจิมาเกือบสามปี ดูแลกล้องไม่ค่อยดีมาก แต่สภาพกล้องยังดูดีอยู่เลย ต่างจาก X-T10 ใช้ยังไม่ครบปีแต่มีปัญหายางลอก (ของคนอื่นปุ่มดูรูปเสีย ของผมยังไม่เจอปัญหานี้)

ยางลอกไม่ใช่ปัญหาหนักเท่าไหร่ แต่ที่เป็นปัญหาคือศูนย์ซ่อมมันมีที่เดียวในประเทศ อยู่ต่างจังหวัดต้องรอนานไปอีก เลยยังไม่ได้ส่งศูนย์สักที เพราะมีคิวถ่ายด้วย ก็เลยคาราคาซังอยู่อย่างนี้

Photo Sample Fuji-XT10
เลนส์ที่ใช้ติดกล้องคือ XF35mm F1.4

อนาคต

สมมุติว่าวันหนึ่งจะได้ซื้อกล้องตัวใหม่ คงจะเป็นรุ่น X-T2 เพราะอยากหมุนปรับ iso แบบง่ายๆ หรือไม่ก็เป็นมิลเลอร์เลสของ Canon ถ้าเขาทำทรงเรทโทรนะ หรือทำทรง SLR แบบ Sony A7 ก็ได้ ..กำลังรอดูช่วงปลายปี ทำออกมาทรงนี้คงได้ควักกระเป๋าตัง เพราะศูนย์บริการสะดวกกว่า

]]>
แชร์เทคนิค ถ่ายรูปด้วยกล้อง Fuji X-T10 แบบสบายๆ สไตล์นาย Makky http://makky.in.th/3033/ Fri, 03 Jun 2016 21:25:33 +0000 http://makky.in.th/?p=3033 อีกไม่กี่วันก็จะครบรอบ 1 ปีที่ใช้กล้องฟูจิ X-T10 จำได้ว่าซื้อกล้องตัวนี้มาตั้งแต่วางขายสัปดาห์แรก ตอนแรกๆผมใช้โหมด Auto ถ่ายรูปตลอด แต่ไม่ถึงเดือน ผมก็เปลี่ยนมาใช้โมด A เป็นหลัก

จะว่าไปเวลาปรับโหมดกล้องฟูจิ ไม่เคยนึกถึง P A S M อะไรพวกนี้เลย เพราะมันไม่มีตัวอักษรเหล่านี้อยู่บนกล้อง และสามารถปรับค่าต่างๆได้เลยจากตัวกล้อง แค่มองก็รู้เลยว่าได้ตั้งรูรับแสงและสปีดชัตเตอร์ไว้ที่เท่าไหร่

ส่วนตัวปรับแค่รูรับแสงแล้วปล่อยอย่างอื่นให้เป็นออโต้หมดเลย เพราะเวลาถ่ายภาพผมจะคิดแค่ว่า จะให้มันชัดลึกหรือชัดตื้นก็แค่นั้น แต่ผมถ่ายเป็นไฟล์ Raw นะ ถ่ายแล้วมาแต่งบนคอมอีกที

อุปกรณ์ที่ต้องมี

จะถ่ายภาพชิลๆแบบนี้ได้ ต้องใช้เลนส์ที่มีวงแหวนปรับรูรับแสงนะ เช่น 18mm, 35mm, 60mm และอีกหลายตัวของฟูจิ ส่วนใหญ่ปรับรูรับแสงจากเลนส์ได้ทั้งนั้น

ถ้าใช้เลนส์ที่ปรับรูรับจากตัวกล้อง ผมว่ามันไม่ชิลเท่าไหร่ มันไม่สะดวกยังไงไม่รู้ และเพราะแบบนี้ผมถึงยังหนีจากฟูจิไม่ได้ ..ก็คิดจะย้ายค่ายอยู่นะ เพราะไม่สะดวกเรื่องศูนย์บริการที่มีอยู่แห่งเดียวในประเทศ และได้ข่าวว่าส่งซ่อมแต่ละทีได้รอนานเป็นเดือน

การตั้งค่า

1. อย่างแรกคือ ISO ผมตั้งออโต้ไว้ไม่เกิน 3200 ทำให้ถ่ายรูปได้สะดวกทั้งกลางวันกลางคืน และ ISO ที่ 3200 ของฟูจิ มีค่า Noise ไม่มาก อยู่ในระดับที่รับได้

2. เปิดกล้องเป็นโหมด Manual และหมุนสปีดชัตเตอร์มาที่ตัว A (ออโต้)

หลังจากนี้เวลาถ่ายภาพก็หมุนที่วงแหวนรูรับแสงอย่างเดียว ประมาณ 99% ของรูปที่ถ่ายมาเกือบปี ผมใช้วิธีนี้มาตลอด

มันชิลดี เหมือนไม่ต้องคิดอะไรมาก ..ให้คิดมากก็แค่ตอนหามุมถ่าย

สไตล์ถ่ายภาพส่วนตัว

ถ้าคุณอยากพัฒนาฝีมือถ่ายภาพให้เป็นนักถ่ายภาพมืออาชีพได้ ..อย่าตั้งค่าตามที่ผมแนะนำ ให้ไปศึกษาความสัมพันธ์ของรูรับแสง สปีดชัตเตอร์ และ ISO อะไรพวกนี้ดีกว่านะ เส้นทางที่ผมเดินคือนักถ่ายภาพ แต่ไม่ใช่นักถ่ายภาพมืออาชีพ

FujiFilm X-T10 Photo Sample

ชอบแนวหลังเบลอๆเป็นพิเศษ เพราะเป็นสิ่งที่กล้องสมาร์ทโฟนทำไม่ได้ (คือทำได้ไม่มากแบบนี้)

FujiFilm X-T10 Photo Sample

ถ่ายรูปสัตว์ก็หมด ส่วนใหญ่มีแต่รูปหมาที่บ้านนี่แหล่ะครับ

FujiFilm X-T10 Photo Sample

โบเก้ก็ชอบ

FujiFilm X-T10 Photo Sample

แนวชัดลึกได้ถ่ายบ้าง แต่ไม่บ่อย คงเพราะแถวบ้านไม่ค่อยมีวิวสวยๆ

FujiFilm X-T10 Photo Sample

แนวพอร์ทเทรตได้ถ่ายไม่บ่อย แต่ได้ถ่ายอยู่เรื่อยๆ

FujiFilm X-T10 Photo Sample

ถ่ายรูปคนที่บ่อยที่สุดคือถ่ายรูปเด็ก รอจังหว่ะเขานิ่งๆแล้วรีบลั่นชัตเตอร์

FujiFilm X-T10 Photo Sample

อีกแนวก็คือรูปดอกไม้ เกี่ยวกับธรรมชาติ ชอบถ่ายถึงขั้นกำลังศึกษาว่าพืชไม้พวกนี้มันเรียกว่าอะไร

ทั้งหมดนี้ก็ถ่ายจากโหมด A โหมดเดียว แม้ว่ากล้องจะมีปุ่มเมนูอะไรต่างๆมากมาย เวลาถ่ายรูปผมหมุนแค่วงแหวนรูปรับแสงอย่างเดียว ถ่ายชิลๆแบบนี้เกือบจะครบปีแล้ว

]]>
OPPO F1 ก็โอเคนะ http://makky.in.th/2987/ Wed, 25 May 2016 19:34:39 +0000 http://makky.in.th/?p=2987 ใช้ Nexus 4 มาสามปีกว่าๆ ทุกวันนี้เครื่องยังลื่นดีอยู่ คุ้มค่าสุดๆ แต่เพราะใช้มานานแบตเริ่มเสื่อม ก็เลยมองหาตัวแทนที่หวังจะใช้ยาวๆได้เหมือนกัน ก่อนหน้านี้เล็งอยู่หลายรุ่น แต่สุดท้ายก็มาจบที่ OPPO F1

เหตุผลที่เลือก OPPO F1

  • ราคาต่ำกว่าหมื่น
  • หน้าจอ 5.0 นิ้ว
  • ซีพียู Snapdargon 8 คอร์ และแรม 3GB
  • กล้องดี
  • วัสดุโลหะ อันนี้เน้นเป็นพิเศษ เพราะจะไม่ใช้มือถือพลาสติกอีกแล้ว
  • OPPO มีรอมพิเศษชื่อ Project Spectrum ที่เป็นรอม Android แบบเพียวๆ

ข้อสุดท้ายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เลือกใช้ OPPO เพราะผมต้องการสมาร์ทโฟนที่มีรอมอื่นๆให้ลง ตอนแรกผมอยากได้พวก Samsung กับ HTC เพราะในต่างประเทศยี่ห้อนี้เขามีรอมให้เล่นเยอะ

แต่พอ OPPO มี Project Spectrum และเครื่องสเปคดีที่ราคาต่ำกว่าหมื่น ผมเลือกเอาเครื่องนี้เลย ..แต่ว่าคงอีกนานนะถึงจะลงรอมใหม่ ใช้เบื่อแล้วค่อยลงครับ และตอนนี้ยังไม่มีรอมใหม่สำหรับรุ่น F1

สิ่งที่ทำให้อึดอัด

คิดว่าคงไม่เกิน 1 ปีจะได้ซื้อมือถือ Android เครื่องใหม่อีกครั้ง สเปคมันดีแต่อยู่หรอก ..แต่มันไม่สุด เช่น ไม่มี NFC ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ และชาร์จไว สามอย่างนี้เป็นฟีเจอร์ของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เลยนะ 

แต่คงไม่รีบที่จะซื้อใหม่หรอกนะ ผมต้องใช้ OPPO F1 ให้คุ้มก่อน เพราะมันไหลลื่น ใช้มาเดือนกว่าลงแอพไปตั้งมากมาย ยังไม่มีอาการแปลกๆให้เห็น

สรุปแล้วดีไหม ?

เหมือนกับที่จั่วหัวไว้ มันดี ซื้อมาตอนนั้น 8,900 บาท ตอนนี้ลดเหลือ 7,990 บาท ก็ยิ่งคุ้มขึ้นไปอีก หากย้อนเวลากลับไปได้ ก็คงเลือกซื้อเครื่องนี้เหมือนเดิม ไม่เสียดายที่ซื้อไป

เครื่องที่อยากได้ในอนาคต

ถ้าผมจะซื้อเครืองใหม่ ขอเป็นอะไรก็ได้ที่เป็นยี่ห้อ Samsung แล้วกัน เพราะมีคนใช้ยี่ห้อนี้เยอะ ที่เลือกยี่ห้อนี้ผมจะได้เอามาเขียนวิธีใช้งานการตั้งค่าและระบบต่างๆของซัมซุง

เกี่ยวกับวิธีใช้ OPPO ผมก็เขียนวิธีใช้งานต่างๆไว้ที่ > http://android.maahalai.com/category/oppo/

]]>
หมีมันเยอะ เดินทางมาถึงอีกจุด http://makky.in.th/2980/ Thu, 14 Apr 2016 18:26:40 +0000 http://makky.in.th/?p=2980 บางทีก็ไม่คาดคิดว่าเพจหมีมันเยอะจะมาถึงจุดจุดนี้ได้งัย จากที่มีแต่รูปหมี ตอนนี้เหมือนเป็นเพจวาดรูปผู้หญิง เหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่คิดที่บ่นอะไรของเขาไปเรื่อย

ย้อนกลับไปดูโพสต์เก่าๆ แม้แต่รูปหมีผมยังวาดเบี้ยวๆไม่เหมือนกันสักตัว บางตัวหูกางไปบางตัวหูสั้นไป ตาใหญ่บ้างเล็กบ้าง ก็เหมือนกำลังฝึกวาด

จนถึงวันหนึ่งอยากทำอะไรใหม่ๆ รู้สึกหมดมุข คือวาดเองยังเบื่อเอง ก็เลยลองวาดการ์ตูนผู้หญิง

procreate make art

อันนี้คือการ์ตูนผู้หญิงคนแรกที่วาด ยังวาดด้วยเส้นหนาๆอยู่ หลังจากนั้นก็วาดมาหลายแบบ แต่ยังไม่มีสไตล์ที่ชัดเจน

procreate make art

 

และหลังจากที่วาดมาประมาณ 24 รูป ผมก็สร้างลวดลายการ์ตูนในแบบของตัวเองได้ โดยใช้เวลาฝึกฝนกว่า 3 เดือน สั่งสมความคิดจินตนาการมาเรื่อยก็ได้แบบที่เห็น

จุดเปลี่ยนสำคัญ

อย่างแรกคือหันมาใช้แอพ Procreate ตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้แอพนี้ มันก็พัฒนาฝีมือผมขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้จะโม้ว่าตัวเองเก่งนะ ..ถ้าได้แอพดี ฝีมือมันก็พัฒนาขึ้นจริงๆ

วันนี้ผมเองยังคิดอยู่เลย ถ้ายังใช้แอพ SketchBook วาดรูปอยู่ รูปภาพจะเปลี่ยนแบบไหน ฝีมือจะพัฒนาขึ้นมั้ย โชคดีจริงๆที่เปลี่ยนมาใช้ Procreate

procreate make art

 

ใครที่สนใจแอพนี้ลองอ่าน > วาดรูปการ์ตูนด้วยแอพ Procreate มันเจ๋งกว่าที่คิด

ผมพรีวิวไว้คร่าวๆ ถ้าจริงจังก็ลองค้นหาเทคนิคการวาดใน YouTube ถ้ายังวาดไม่เก่งก็ค้นคำว่า “สอนวาดรูป” มีคนถ่ายคลิปสอนวาดไว้มากมาย 

ส่วนตัว แม้ว่าจะรู้สึกพอใจอย่างมากกับรูปที่วาดได้ในปัจจุบัน แต่รู้สึกว่ามันไม่สุด ยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอีก และคงจะวาดแบบนี้ไปเรื่อยๆ 

ถ้าครบ 1 ปีแล้ว เดี๋ยวมาดูว่าเพจจะเปลี่ยนไปแบบไหนอีก เพราะตั้งแต่ทำเพจนี้มา รู้สึกว่านี่จะเป็นครั้งที่ 4 แล้ว สไตล์การวาด แต่ยังวาดรูปหมีอยู่เหมือนเดิม เพราะผมรักมัน

ส่วนจุดเปลี่ยนสำคัญอีกจุดหนึ่ง ผมวาดรูปคนที่แอบชอบไปให้เขา เขาบอกว่าน่ารักดีและรู้สึกชอบ ..เรื่องมันก็แค่นี้ แต่หลังจากนั้นเพจหมีมันเยอะก็ได้การ์ตูนสไตล์ใหม่

]]>
ทดสอบความแรง 4G Dtac ที่ อ.หนองหาน http://makky.in.th/2976/ Tue, 22 Mar 2016 19:14:38 +0000 http://makky.in.th/?p=2976 ช่วงที่เขาประมามูล 4G จะมีคนบงกลุ่มชอบพูดว่าทำไมไม่ทำ 3G ให้ดีๆก่อน คืออยากจะบอกพวกนั้นว่า “ทำไมมึงไม่กลับไปใช้ GPRS เลยล่ะ” เพราะการพัฒนาคลื่นมันต้องเพิ่มความแรงแบบนี้ ไม่ใช่ไปทำอันเก่าเพราะเดี๋ยวโลกจะไป 5G แล้ว

4G มันไม่ใช่แค่แรงขึ้น แต่มันจะกระจายเสาสัญญาณได้ดีกว่า ทำให้จากเดิมพื้นที่ที่รับสัญญาณ 3G ไม่ค่อยดี พอเปลี่ยนเป็น 4G ก็จะได้รับสัญญาณที่ดีขึ้นแถมยังโหลดแรงกว่าด้วย

การทดสอบ 4G

ส่วนตัวใช้อยู่ 2 ซิม Dtac ใช้เป็นซิมหลัก ส่วนทรูใช้เป็นเบอร์สำรอง ไม่ค่อยเติมตัง ไม่ได้สมัครแพ็คเกจ เลยขอไว้โอกาสหน้าถ้าพร้อมจะทดสอบให้ดู

ผมทดสอบบน iPhone 6 ด้วยแอพ Speedtest.net แอพนี้ถือว่าเป็นแอพยอดนิยมของนักทดสอบความแรงเน็ต แล้วผลที่ได้ก็คือ..

dtac 4g

 

ความเร็วดาวน์โหลดได้ 35.73 Mbps ส่วนความเร็วอัพโหลดได้ 3.91Mbps

ความเร็วระดับนี้ถ้าโหลดไฟล์ขนาด 100 MB  ก็จะใช้เวลาประมาณ 25 วินาที ไฟล์ 1 GB ก็จะใช้เวลา 4 นาที (อันนี้วัดจากความเร็วสูงสุด ปฏิบัติจริงอาจช้ากว่านี้)

สำหรับการใช้งานทั่วไป ดูคลิป YouTube ความละเอียดสูงๆได้สบายๆ ดูหนังออนไลน์เว็บอื่นๆถ้ากระตุกสาเหตุก็น่าจะมาจากเว็บมากกว่า

เทียบกับไวไฟ

dtac 4g

 

ที่บ้านผมใช้เน็ตทรูความเร็วถือว่าค่อนข้างดี ดูหนังออนไลน์ ดู YouTube ได้สบาย ส่วนปัญหาที่คนอื่นพบเจอ เน็ตกากบ้างอะไรบ้างๆ นานๆทีจะได้เจอ อาจเพราะที่หนองหานคนใช้เน็ตไม่มากเหมือนในจังหวัด เน็ตก็เลยดี

ความเร็วเน็ตไวไฟทรูที่บ้านวัดได้ 24.38 Mbps อัพโหลด 1.68 ก็คือว่าด้อยกว่า 4G ..แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มว่า ยังไงใช้เน็ตบ้านมันก็ดีกว่าใช้ 4G ในกรณีที่จะใช้ในบ้านนะครับ

เน็ตไวไฟ VS เน็ต 4G

บ้านใครที่ยังไม่มีเน็ตแต่กำลังจะซื้อมาใช้ ยังไงเน็ตไวไฟมันก็ดีกว่า เพราะ “ไม่มีติด FUP” ..ความเร็วจากซิม 3G 4G เมื่อใช้ไปถึงปริมาณที่กำหนดก็จะถูกลดความเร็ว ถ้าอยากใช้เน็ตแรงๆก็ต้องจ่ายเพิ่มเพื่อให้ได้ความเร็วสูงปกติ ซึ่งค่าใช้จ่ายมันก็จะแพงกว่าเน็ตไวไฟ

ดังนั้นจะใช้เน็ตที่บ้านเป็นหลักยังไงไวไฟก็ดีกว่าในแง่ของการประหยัดค่าใช้จ่าย และได้ใช้กันทั้งครอบครัว ส่วนเน็ต 4G ถ้าจะซื้อแพ็คเกจก็เหมาะกับคนทำงานนอกบ้าน

สรุป

4G ของ Dtac ถือว่าทำได้น่าประทับใจ ใครที่อยู่หนองหานได้โหลดแรงแน่นอน แต่ถ้าอยู่พื้นที่อื่นมันไม่แน่นอนนะครับ ถ้ามีคนใช้จำนวนมากในเวลานั้น หรืออยู่ในพื้นที่อับสัญญาณความเร็วจะลดลงเป็นธรรมดา

]]>
วาดรูปการ์ตูนด้วยแอพ Procreate มันเจ๋งกว่าที่คิด http://makky.in.th/2971/ Sun, 20 Mar 2016 22:31:28 +0000 http://makky.in.th/?p=2971 ผมวาดรูปด้วยแอพ SketchBook มาตลอด ไม่ได้เปลี่ยนไปใช้แอพไหน เพราะความเคยชิน และเครื่องมือมันก็ใช้งานง่าย แต่ใช้ไปก็เริ่มอึดอัด อยากได้อะไรที่โปรกว่า ก็เลยมาลงที่แอพ Procreate

ผมซื้อแอพ Procreate มาไว้นาน 2-3 ปี แล้วแต่แทบไม่ได้ใช้เลย เพราะใช้งานไม่ถนัดเลยเหมือนซื้อมาดองไว้เฉยๆ แต่แล้ววันหนึ่งก็ได้หันมาใช้  Procreate แบบจริงจัง เพราะใช้เลือกค่าสีได้อย่างละเอียด

ค่าสีส่งผลต่อการ์ตูนที่ผมวาดมากนะ สีผิวการ์ตูนของ SketchBook มันไม่สวย มันอาจจะดีกับรูปวาดแบบอื่นๆ แต่มันไม่ดีกับรูปที่ผมวาด ผมอยากได้สีส้มที่ดูนวลๆสว่างๆแต่มันไม่มี แต่แอพ Procreate มันมีแบบที่ผมต้องการ

Procreate

การสร้างงาน

แอพนี้ใช้ทำงานแบบมืออาชีพได้เลย เพราะกำหนดขนาดได้อิสระ มีระบบเลเยอร์ และที่สำคัญสามารถเซฟงานเป็นไฟล์ PSD ไปเปิดบน Photoshop ได้

หน้าตาแอพ

ที่ไม่ชอบ Procreate ตอนแรกๆ ก็เพราะหน้าตามันนี่แหล่ะ ใหม่ๆใช้งานไม่ถนัดเลย แต่พอหันมาเอาจริงวาดรูปด้วยแอพนี้บ่อยๆ หลงรักเลยทีนี้ นอกจากจะวาดรูปได้สวยเมนูอะไรต่างๆก็เรียกใช้งานได้ง่าย

Procreate

ปากกา

เอาจริงๆเครื่องมือที่ผมใช้มีอยู่ไม่กี่อัน ที่ใช้บ่อยก็คือ Get Pen เอามาวาดเพราะการ์ตูนที่ผมวาดมีลักษณะลายเส้นที่ดูง่าย เป็นการ์ตูนวัยรุ่นๆแบบที่เห็น เส้นค่อนข้างหนา ไม่เน้นคม(ฝีมือไม่ถึงขั้น)

แต่จะพัฒนารูปภาพขึ้นเรื่อยๆ และตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้ Procreate (ผมเพิ่งใช้ต้นปีนี้เอง) ยิ่งวาดรูปก็ยิ่งดีขึ้นจริงๆ เหมือนถูกโฉลกกับแอพนี้มาก ถ้าอยากรู้ว่ารูปมันดีขึ้นเรื่อยๆยังไงลองเข้าไปดูที่เพจ หมีมันเยอะ

ส่วนปากกาอื่นๆที่ใช้ก็มี Brush Pen กับ Flat Marker ไว้ใช้วาดเส้นผมและระบายสี

สี

นอกจากจะจิ้มเลือกจากจานสีได้แล้ว ยังสามารถใส่ค่าสีได้เหมือนใช้ Photoshop อันนี้ถูกใจผมที่สุด เพราะที่ผ่านมาผมรู้สึกสีผิวการ์ตูนมันไม่สวยเอาซะเลย

Procreate

 

เลเยอร์

เลเยอร์ของ Procreate ไม่ใช่แค่แบ่งงานเป็นชั้นๆ แค่นั้น แต่ยังจัดการคัดลอก ปรับสีได้ คล้ายๆกับ Photoshop

Procreate

การจัดการ

ถ้ามีงานวาดเยอะ สามารถจัดกลุ่มรูปภาพได้ ผมมีโปรเจคจะทำสติ๊กเกอร์ LINE แอพนี้ช่วยได้ดีในแง่ของไม่ให้งานมันดูกระจัดกระจาย

การตั้งค่า

Procreate

 

การตั้งค่า

แอพนี้มีเมนูตั้งค่าหลายอย่าง ส่วนตัวใช้แบบไม่ได้ปรับอะไร ส่วนถ้าใครชอบพื้นสว่างๆก็ปรับได้ที่เมนู Light interface

ราคา

ไม่แพงเกินเอื้อม อยู่ที่ $5.99 เอง คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 210 บาท อาจจะแพงไปสำหรับมือใหม่หัดวาด แต่ถ้าอยากพัฒนาฝีมือการวาดผมว่าซื้อเหอะ ไม่ต้องซื้อแอพนี้ก็ได้ แอพไหนมันก็มีดีของมัน ..เพียงแต่แอพฟรีมันไม่ดีเท่าแอพเสียเงิน

]]>
รับถ่ายรูปฟรีเป็นที่ระลึกก่อนจบการศึกษา สำหรับนักเรียนโรงเรียนหนองหานวิทยา http://makky.in.th/2968/ Thu, 10 Mar 2016 09:01:05 +0000 http://makky.in.th/?p=2968 รับถ่ายรูปฟรี สำหรับน้องๆที่กำลังจะเรียนจบจากโรงเรียนหนองหานวิทยา ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ได้ทั้งชายและหญิง(ขอแบบเป็นกลุ่ม) ส่วนใครที่สนใจถ่ายเดี่ยวรับเฉพาะผู้หญิง

สถานที่ถ่ายรูป : โรงเรียนหนองหานวิทยา

สนใจติดต่อ

สิ่งที่จะได้

ไฟล์ภาพดิจิทัลที่ตกแต่งเสร็จแล้ว สามารถนำไปอัดรูปหรือทำอะไรต่อได้เลย

ผลงานที่ผ่านมา

ยังไม่เคยถ่ายรูปนักเรียนนะครับ งานนี้จะเป็นงานแรกๆ เลยถ่ายให้ฟรี ดูรูปต่อได้ที่ > http://gallery.makky.in.th

]]>
รีวิวเปรียบเทียบเลนส์ Fujinon XF 35mm f1.4 กับ 60mm F2.4 http://makky.in.th/2958/ Sun, 28 Feb 2016 22:56:05 +0000 http://makky.in.th/?p=2958 ส่วนตัวใช้ XF 35mm f1.4 เป็นเลนส์ติดกล้องมาตลอด 6 เดือน และไม่กี่วันมานี้ได้มีโอกาสได้ใช้ XF 60mm F2.4 แบบเป็นเจ้าของจริงๆสักที คือก่อนหน้านี้ผมเคยยืมเพื่อนถ่ายแล้วไม่ได้ชอบ ก็เลยสอยตัว 35mm มาถ่ายดีกว่า

แต่พอใช้ไปนานๆ ก็มีอาการเหมือนกับคนอื่นๆ คือรู้สึกว่าต้องงอกเลนส์ ผมเล็งๆพวกเทเลไว้ แล้วก็ได้ 60mm มือสองสภาพดีมีประกันมาใช้งาน แม้ว่าจะไม่ได้ชอบในตอนแรก แต่สังเกตุพฤติกรรมตัวเองตอนถ่ายรูป จะเป็นคนชอบถ่ายเจาะมากกว่าถ่ายวิว วิวแทบไม่ถ่ายเลยผมเน้นถ่ายจุดเล็กๆที่สายตาคนอื่นไม่ค่อยได้มองมากกว่า ..ก็เลยคิดว่า 60mm นี่ล่ะน่าจะเหมาะสม รูปทรงไม่ใหญ่(ยกเว้นฮูด) และที่น่าสนใจมันถ่ายมาโครได้

หมายเหตุ

  • รูปภาพทั้งหมดแค่ติดป้ายกำกับว่าถ่ายด้วยเลนส์อะไร ไม่ได้รวมการตั้งค่ารูรับแสง
  • รูปภาพทั้งหมดถ่ายจากกล้อง FujiFilm X-T10

ระยะเลนส์

มาเริ่มกันที่ประเด็นแรก จุดต่างที่สำคัญอยู่ที่ระยะเลนส์ 35mm สำหรับผมมันเป็นเลนส์กลางๆ จะกว้างก็ไม่กว้าง และไม่แคบเท่าไหร่ แต่เลนส์ตัวนี้ใช้งานได้ครอบคุม ถ่ายอาหารและถ่ายคนได้สบายๆ ถ่ายดอกไม้ก็สวย ถ่ายวิวได้นิดหน่อย

ระยะห่างถ้าถ่ายคนก็ประมาณ 2-3 ก้าว จะถ่ายละลายหลังสวยๆได้พอดี หรือถ่ายรูปคนที่นั่งกินข้าวอยู่บนโต๊ะอาหารก็ได้ ถ้าโต๊ะกว้างก็ไม่ต้องถอย แต่ถ้าโต๊ะแคบอาจจะได้เอนหลังหน่อย

ส่วน 60mm เป็นเลนส์มุมแคบ ใครมีเลนส์คิทให้ลองซูมสุดกระบอก ระยะจะประมาณนั้นเลย และการใช้งานมันจะทำได้ดีแค่บางสถานการณ์เท่านั้น ถ่ายพอร์ตเทรตละลายหลังสวยๆได้ โดยยืนห่างกัน 5-6 ก้าว ใช้ส่องแมวที่อยู่ข้างถนนพอได้ ถ่ายดอกไม้ได้อยากสวยงาม และน่าจะเป็นเลนส์ที่ใช้ถ่ายดอกไม้ได้ดีมากที่สุดตัวหนึ่ง(เพราะมันเป็นมาโคร)

แต่มีหลายสถานการณ์ที่ 60mm ทำได้ไม่ดี เช่น ถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะ นั่งถ่ายบนโต๊ะทำได้อยู่นะ แต่ต้องยกกล้องสูงหน่อย ถ่ายรูปคนในรถก็ไม่ได้ หรืออยู่ในพื้นที่แคบๆ ระยะนี้ไม่เหมาะสมเลย

FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4
FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4

บุคคลิก

35mm = ถ่ายในสิ่งที่สายตาคนทั่วไปมองเห็นได้ถนัด

60mm = ถ่ายในสิ่งที่สายตามองเห็นไม่ค่อยถนัด เช่น มาโคร และระยะที่ห่างออกไปหลายก้าว

ความคม

แม้ว่าสองตัวนี้จะเป็นเลนส์เกรด XF เหมือนกัน แต่ผมสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างต่างกัน 35mm เปิด F1.4 ภาพจะฟุ้งนิดนึง แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ง่ายถ้าไม่ซูมดู (ไม่เหมือนกับเลนส์มือหมุนเก่าๆ ที่ถ่ายมาก็รู้เลยว่าภาพมันฟุ้ง) แต่ถ้าเปิดที่ F2 จะได้ภาพที่คมพอดี

ประเด็นเรื่องความฟุ้งผมว่ามันเป็นสเน่ห์ของเลนส์ตัวนี้ไปแล้ว เพราะมันทำให้ถ่ายสาวๆออกมาสวย โดยความฟุ้งจะเป็นรองพื้นเกลี่ยใบหน้าให้ดูเนียนขึ้น และมองออกได้ยากถ้าไม่ซูมดู

ส่วน 60mm เป็นเลนส์ที่คมตั้งแต่ F แรก เปิดที่ F2.4 แล้วยังเก็บรายละเอียดได้ดี สิวมีกี่เม็ดเห็นชัดเต็มตา ถ้าได้ถ่ายสาวๆที่มีสิวอาจได้รีทัชจนเหนื่อย เว้นแต่ไม่แคร์เรื่องสิว

FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4

ความเร็ว

ถ้าถ่ายตอนกลางวัน ทั้งตัว 35mm และ 60mm ไม่ได้รู้สึกว่ามันช้าเลย โฟกัสเร็วปกติ

แต่ถ้าอยู่ในที่แสงน้อย 35mm ชนะขาด 60mm ออกอาการชัดเจน โฟกัสวืดวาดบ่อย

FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4

กลางคืน

35mm เป็นเลนส์ที่ถ่ายภาพกลางคืนได้ดีมาก ไม่ว่าสถานการณ์ไหนก็รู้สึกถึงความมั่นใจ แม้ว่าจะมีวืดวาดบ้าง แต่อยู่ใน % ที่น้อย

ส่วน 60mm ถ่ายในที่แสงน้อยได้ลำบากมาก ผมแก้ด้วยการดัน ISO สูงๆตลอด

FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4

ถ่ายรูปเด็ก

ใครที่มีลูกอยากได้เลนส์ดีๆมาถ่ายละลายหลังสวยๆ (ผมมีแต่หลานนะ) ถ้าต้องเลือกระหว่าง 35 กับ 60 แนะนำ 35mm ดีกว่า เพราะสามารถถ่ายได้โดยไม่ต้องอยู่ห่างจากตัวเด็กมาก ระยะ 60 คิดว่าอยู่ห่างจากเด็กเกินไปและเขาจะไม่ค่อยสนใจกล้อง

FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4

ถ่ายรูปดอกไม้

ถ้าชอบแนวธรรมชาติเล็กๆ มด แมลง ดอกไม้ ฯลฯ 60mm ทำได้ดีกว่าแน่นอน ต่อให้ไม่ได้ถ่ายมาโครก็ตาม มันจะเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า ส่วน 35mm ถ่ายดอกไม้พอได้อยู่

FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4

ถ่ายอาหาร +บรรกาศในร้าน

ถ้าชอบเที่ยวกิน ชอบชาเขียว ชอบจิบกาแฟที่คาเฟ่ 35mm ทำได้ดี ถ่ายรูปอาหารแทบไม่ต้องขยับ ถ่ายบรรกาศในร้านพอได้อยู่ แต่มุมจะแคบไปหน่อย ส่วน 60mm ลำบากมาก ทั้งพื้นที่ที่แคบ หลายๆร้านจะมีแสงน้อย หรือนั่งร้านแบบ outdoor ก็ไม่ถนัดอยู่ดี ร้านส่วนใหญ่ไม่ได้มีพื้นที่มาก ..แต่พอถ่ายได้ไหม 60mm ทำได้อยู่นะครับ ไม่ใช่ว่าเข้าร้านแล้วจะทำอะไรไม่ได้เลย ถ่ายรูปอาหารได้ แต่ต้องยกกล้องสูงหน่อย ถ่ายคนและบรรยากาศในร้านจะได้มุมที่จำกัด

FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4

ถ่ายรูปสัตว์เลี้ยง

ยังไม่เห็นข้อแตกต่างเท่าไหร่นอกจากระยะที่ต่างกัน แต่เอาเป็นว่าให้ดูพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก อย่างหมาผมถ้าเห็นกล้องแล้วชอบหันหน้าหนี ต้องอยู่ห่างๆแล้วมันจะดูเป็นธรรมชาติ ตรงนี้ 60mm ตอบโจทย์ได้ดีกว่า ระยะนี้เอาไปส่องแมวตามรั้วบ้านก็ยังได้

FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4

ถ่ายพอร์ทเทรต

ทำได้ดีทั้งคู่แต่สไตล์จะแตกต่างกัน เน้นความคมก็ 60mm แม้ว่าจะยืนระยะห่างหน่อย แต่ไม่ใช่สิ่งที่แปลกหรือลำบากอะไร เลนส์ที่เน้นพอร์ทเทรตส่วนใหญ่เขาก็ใช้ระยะ 50mm ขึ้นไป

ส่วน 35mm ถ้าเปิด F1.4 มันจะมีความฟุ้ง แต่ไม่ได้ฟุ้งแบบเลนส์มือหมุนนะ เพราะมองเห็นได้ยากถ้าไม่ซูมภาพดู แต่ถ้าจะถ่ายให้คมก็ทำได้แค่ปรับเป็น F2.0 ขึ้นไป

แต่ส่วนใหญ่เวลาถ่ายพอร์ทเทรตผมเปิด F1.4 ตลอด ถ่ายพอร์ทเทรตถ้าถ่ายให้ผู้หญิง ส่วนใหญ่เขาไม่สนว่าภาพที่ออกมามันคมชัดไหม แต่เขาจะดูว่าเขาสวยพอไหม

FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4

ถ่ายสตีท

ได้ทั้งสองเลยครับ ชอบกว้างหรือแคบ ไกล้แบบหรือไกลแบบ คิดว่าแล้วแต่มุมมอง ความถนัด แต่ฮูด 60mm ค่อนข้างใหญ่ ดูไม่เป็นมิตรกับประชาชนเท่าไหร่

FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4

ถ่ายวิว

ทั้งสองเลนส์ไม่ได้เหมาะกับการถ่ายวิวเลย แต่ถามว่าอันไหนดีกว่า ยังไงก็ต้อง 35mm อยู่แล้ว เพราะมันเห็นวิวได้กว้างกว่า ส่วน 60mm แม้มุมมองจะแคบมากก็ใช่ว่าจะถ่ายไม่ได้ มันถ่ายได้ เพียงแต่ต้องเลือกมุมมานำเสนอ

FujiFilm X-T10 Photo
35mm F1.4
FujiFilm X-T10 Photo
60mm F2.4

ถ่ายรูปของเล่น

ถ่ายรูปโมเดลของเล่นต่างๆ คิดว่าทำได้ดีทั้งสองเลนส์เลย แต่ถ้าจะถ่ายรูปสินค้าคิดว่า 60mm น่าจะดีกว่าในแง่ของการเก็บรายละเอียด

สรุป

  • 35mm เป็นเลนส์อเนกประสงค์ ใช้งานง่าย ถ่ายรูปทั่วไปได้ดี
  • 60mm ให้อารมณ์ศิลปิน ถ่ายรูปได้ในมุมที่จำกัด

 

]]>
[ขายได้แล้ว] ปากกาสไตลัส Jot touch with pixel point มือสองราคา 2,990 บาท http://makky.in.th/2948/ Tue, 05 Jan 2016 12:32:56 +0000 http://makky.in.th/?p=2948 ขายปากกาสไตลัสสำหรับ iPad ยี่ห้อ Adonit – Jot Touch with Pixelpoint ซื้อมาวันที่ 31 ธันวาคม 58 ในราคา 3,590 บาท ขอขายต่อในราคา 2,990 บาท เหตุเพราะใช้ไม่ถนัด 

แต่สภาพยังสมบูรณ์ 99% อุปกรณ์ครบมีกล่องพร้อมใบเสร็จ เหมาะกับคนที่ต้องการวาดรูปหรือใช้จด

ติดต่อ

  • โทร 083-666-7924
  • LINE ID = makky.in.th

6 DSCF4274 DSCF4275

คุณสมบัติ

  • เทคโนโลยี PixelPoint กับปลายหัวเขียนที่เล็กที่สุด ขนาด 3.1 ม.ม แม่นยำจนเหมือนปากกาจริง
  • Palm Rejection ประสานความสามารถของ Adonit’s เพิ่ม ความสามารถวางข้อมือลงบนหน้าจอ iPad
  • แรงกด Pressure Sensitivity ถึง 2048 ระดับ
  • ปุ่มลัด Shortcut Buttons
  • ที่ชาร์จ USB เข้ากับพอร์ต USB แค่วางลงบนแท่นชาร์จที่ยึดติดด้วยแม่เหล็ก เติมพลังการใช้งาน สูงสุด 1 เดือนเต็ม
]]>
เพราะหมีมันเยอะ http://makky.in.th/2944/ Tue, 06 Oct 2015 18:28:08 +0000 http://makky.in.th/?p=2944 ไม่ได้วาดรูปแบบจริงจังมานานเกือบ 3 ปี แต่ก็วาดเล่นมาเรื่อยๆ เป็นระยะๆ ตอนนี้กลับมาวาดอีกแบบจริงจังกว่าเดิม วาดแล้วทำเพจใหม่ด้วย ใช้ชื่อว่า “หมีมันเยอะ”

MheeStory

3 ปีที่หายไปผมไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร หมดแรงบันดานใจหรือขี้เกียจก็ไม่รู้ แต่กลับมาคราวนี้ได้มาพร้อมกับความรู้สึกที่อยากระบาย อยากเล่า อยากเขียน พูดถึงความรู้สึกจริงๆ ก็เลยทำให้เกิดเพจหมีมันเยอะ

หมีมันเยอะชื่อนี้ผมไม่ได้คิดเอง แต่มาจากคำพูดของน้องอายบอกว่าหมีมันเยอะแล้ว วาดสัตว์ตัวอื่นดีมั้ย แล้วก็ลองตั้งชื่อหมีกันว่าจะใช้ชื่ออะไรดี มีทั้งหมีกาก หมีแง้ว ฯลฯ แต่สุดท้ายก็ได้หมีมันเยอะ

MheeStory2

หมีมันเยอะ เพราะเรื่อมันเยอะ และตัวมันก็เรื่องเยอะ มีหลายอย่างที่มันอยากจะระบายออกมา ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเศร้าๆ เฟลๆ ตามอารมณ์ของคนวาด

อารมณ์ที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโชคร้าย ตอนนี้รู้สึกไม่ดี มองโลกในแง่ลบหลายอย่าง กลัวจะเป็นซึมเศร้า ไม่อยากเป็นแบบนั้น ก็หาทางระบายหลายอย่าง ทั้งเล่นเกม ถ่ายรูป ล่าสุดก็มาเป็นวาดการ์ตูน

กลับมาวาดอีกครั้ง ลายเส้นดูกากๆหน่อย แต่เชื่อว่าวันหนึ่ง มันจะดูดีขึ้น สวยขึ้น เหมือนที่เคยทำเมื่อสามปีก่อน

]]>