เหตุผลที่ผมเลือกรุ่นนี้
– มีงบจำกัด
– มันเป็น Windows Phone ที่มีสเปกเทียบเท่ามือถือระดับกลาง
– กล้องหน้าไม่มี แฟลชไม่มี เลนส์กล้องเป็นแบบธรรมดา ตรงนี้ไม่สนใจไม่เท่าไหร่ เพราะผมมี iPhone อีกเครื่อง (ถ้าไม่มีไอโฟนอีกเครื่องผมคงไม่ซื้อรุ่นนี้นะ เหมือนมันขาดๆอะไรไป)
– การดีไซน์เครื่องทำได้ถูกใจผม โดยเฉพาะมันเปลี่ยนฝาหลังได้

เอาไว้ว่างก่อนจะเปิดกล่องให้ดู เดี๋ยวผมพาดูภายในก่อนนะครับ

หน้าล็อค
หน้าล็อคสกรีนมีแจ้งเวลาวันที่และเหตุการณ์สำคัญ

หน้าโฮมสกรีน
ผมใช้ Windows 8 บนคอมอยู่ เลยไม่ได้ปรับตัวอะไรยากครับ มันเป็นอะไรที่ดูง่ายดี “สำหรับคนที่ไม่เล่นแอพมาก” ตัวนี้ผมเน้นเอามาใช้โซเชี่ยล และทำงานกับเบอร์ของทรู ถ้าชอบเล่นแอพเยอะๆ ผมว่าอาจทำให้มึนได้นะกับโฮมสกรีนแบบนี้ เวลาเข้าหน้ารวมแอพแล้วมันลำบากที่จะหา

ลื่นโดยกำเนิด
ด้วยระบบของมันถูกออกแบบมาเพื่อจอสัมผัส การเล่นแอพต่างๆลื่นเหมือนใช้ iPhone เลยครับ มันไม่เหมือน Android นะ ตอนผมใช้ Note II แล้วลองเล่น LINE ก็ยังมีหน่วงๆอยู่

แอพสวย
ที่ผมชอบ Windows Phone อีกอย่างคือทำแอพออกมาได้สวย สวยแบบเป็นสไตล์เฉพาะ

LINE กาก
ใครชอบเล่น LINE เป็นชีวิตจิตใจ ผมว่าผิดหวังแน่ๆงานนี้ หน้า Timeline ไม่มี มีสติ๊กเกอร์ให้เล่นแค่ 4 แบบ ร้านสติ๊กเกอร์ไม่มีนะ

ภาษาไทย
สนับสนุนภาษาไทยค่อนข้างเต็มรูปแบบ ดูแล้วเข้าใจไม่ยากครับ ผมใช้ครั้งแรกก็ตั้งค่าเป็นเลย

คีบอร์ดไทย
ไม่รู้เพราะความไม่ชินหรือเพราะอะไร แต่ผมรู้สึกลำบกเวลาพิมพ์ คีบอร์ดจะเปลี่ยนสีไปตามแอพที่ใช้ด้วย

Office
มีแอพดูงานพวกออฟฟิสมาให้ด้วย ใช้ดู Word Excel และ PowerPoint ส่วนการสร้างเอกสารจะทำได้เฉพาะ Word กับ Excel เท่านั้น

กล้องถ่ายรูป
รู้สึกว่าตัวกล้องไม่เวิร์คเท่าไหร่ ผมโหลด Camera360 มาใส่ มันดีขึ้นมากๆ

ไม่มี Instagram
ตอนนี้ยังไม่มี แต่ได้ข่าวว่ากำลังมาครับ

แผนที่
โนเกียมี Here Map มาให้ และมี Here Drive แผนที่นำทางสำหรับผู้ขับรถมาให้ด้วย แต่ข้อมูลต่างจังหวัดไม่คอยมีนะครับ ที่บ้านผมแทบไม่มีข้อมูลเลย

เว็บ
ความไหลลื่นและความเร็วอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมครับ ลื่นและโหดเร็ว (เน็ตต้องดีด้วยนะ)

ภาพถ่าย
อินเตอร์เฟสสวยดี แต่ใครที่เชื่อมระบบเข้ากับเฟส มันจะดูดภาพจากเฟสมาใส่ด้วย (ใครมีภาพเป็นหลายร้อยเหนื่อยเลยนะ ผมกำลังหาวิธีเอาออก)

โซเชียล
เป็นระบบที่มีความเป็นโซเชีบลออนไลน์ค่อนข้างสูง ทั้งงานออฟฟิสและรายชื่อผู้ติดต่อถูกเชื่อมโยงเข้ากับระบบออนไลน์

แอพ
มีแอพเป็นแสน แต่แอพที่ผมถูกใจยังมีน้อยมากครับ ถ้าเทียบปริมาณและคุณภาพกับแอพสโตร์บน iPhone แล้ว ผมว่าแอพสโตร์บน iPhone เหมือนห้างขนาดใหญ่ ส่วนแอพบน Windows Phone เหมือนร้านค้าปีกขนาดกลางที่เต็มไปด้วยสินค้าพื้นบ้าน

แอพไทย
ส่วนใหญ่เป็นแอพทำให้แฟนคลับดาราและคนดัง

สรุปแอพ มันแค่พอใช้

เกม
ถ้าชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ (เก็บเงินไปถอย Android แรงๆหรือ iPhone เถอะครับ) เกมไม่มากเท่าไหร่ครับ

ส่วนใหญ่เป็นเกมทั่วๆไป ไม่แรงมาก เป็นเกมแบบที่เล่นได้ทุกคน เกมดังๆและเกมที่กราฟฟิคแรงๆ ยังมีน้อยอยู่ครับ

ความน่าสนใจของระบบแอพและเกม คือมีให้ “ทดลองเล่น” ก่อนที่จะซื้อจริงเราทดลองเล่นก่อนได้

อนาคตแอพและเกม
ณ ตอนนี้ยังตอบโจทย์การใช้งานผมได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่เชื่อว่าในอนาคตคงมีเยอะกว่านี้ เพราะระบบยังตั้งไข่ได้ไม่นาน อย่างเกมก็มีของค่าย EA และ Gameloft เอามาลงแล้ว สองค่ายนี้ทำเกมดีๆไว้เยอะอยู่นะ แต่บน Windows ยังเอามาลงไม่มากเท่านั้นเอง

ความเป็น Nokia
ถ้าได้ใช้ Windows Phone แล้วลืมภาพซิมเบี้ยนล้าหลังของโนเกียไปได้เลย เพราะนี่คือ Windows สองบริษัทนี้เขาเป็นพันธมิตรกันทำสมาร์ทโฟน …และในความรุ้สึกผมนะ ถ้าจะซื้อ Windows Phone ต้องซื้อของโนเกีย

สรุป
– นี่คือ Windows Phone ที่ราคาถูกที่สุด และทำได้ดีเกินราคา
– ถ้าชอบถ่ายรูป ผมไม่แนะนำให้ซื้อรุ่นนี้นะ เก็บเงินอีกหน่อยซื้อรุ่นที่มีแฟลชกับกล้องหน้า
– ลื่นดี เวลาเทียบสเปกนะ อย่าไปเทียบกับ Android เพราะมันไม่ใช่ระบบเดียวกัน ระดับ Dual Core ของ Android กับ Windows ความไหลลื่นของการใช้งานมันต่างกัน
– แอพน้อย เกมไม่มาก Instagram ยังไม่มี แค่พอใช้งาน แอพไม่ได้น้อยจนน่าเกลียด แอพดีๆน่าสนใจยังมีอยู่ เดี๋ยวผมเอามาแนะนำทีหลัง
– มีแอพของ Nokia (ที่ใช้ได้เฉพาะ Nokia) มาให้ ซึ่งดีทีเดียว
– ฝาหลังเปลี่ยนสีได้ หน้าโฮมก็เปลี่ยนสีได้ (จะเปลี่ยนสีฝาหลังก็ซื้อเพิ่มอ่ะนะ)
– จะดีมากเลย ถ้าคอมเราใช้ Windows 8 ด้วย
– นี่คือวันแรกของการใช้งาน ผมยังไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรที่แอบซ่อนอยู่ ยังฟันธงไม่ได้ว่าดี แต่สัมผัสแรกผมรู้สึกดี

ผมยังใช้ iPhone 4S เครื่องเดิมอยู่นะ ก็กะว่าจะใช้ไปจนกว่า iPhone เครื่องใหม่จะออกปีนี้ สำหรับที่ผมใช้และเล่นบ่อยๆส่วนใหญ่จะเป็นโซเชียล และที่ใช้ทั่วๆไป มีเล่นเกมบ้าง ที่ใช้บ่อยสุดคือเล่น Facebook กับ Twitter

แอพที่ผมใช้ทั้งหมดนี้มีให้ดาวน์โหลดหรือซื้อได้ที่ App Store นะครับ มีทั้งฟรีและไม่ฟรี ใครที่มี iPhone แล้วไปลงแอพจากร้าน ผมแนะนำให้สมัครเองแล้วลงแอพเองดีกว่านะ เพราะจะทำให้อัพเดทแอพเองได้และดาวน์โหลดแอพเองได้ ชีวิตมีอิสระกว่าเห็นๆ

TweetCaster Pro
เอาไว้เล่น Twitter ตอนแรกผมใช้แบบฟรี ต่อมาก็เลยซื้อตัวโปรในราคา $4.99 ส่วนตัวใช้ตัวนี้มาเกือบสองปีแล้ว ส่วนแอพที่เป็นของ Twitter เอง ผมแทบไม่ได้ใช้เลย

Instagram
อีกแอพหนึ่งที่เล่นอยู่ทุกวัน กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว ส่วนใหญ่เข้าไปดูรูปดาราและคนดังที่ติดตาม

mSecure
เป็นเพราะว่าผมมีบริการบนออนไลน์เยอาะ และตั้งรหัสผ่านไม่ซ้ำกัน แอพนี้มันจำเป็นมากๆสำหรับใช้เก็บรหัสผ่านจากเว็บต่างๆ และผมต้องเข้าธนาคารออนไลน์ทุกวัน แต่จำเลขไม่ค่อยได้ ซึ่งแอพนี้ช่วยได้ดีมาก

LINE
โซเชียลนี้ เล่นไปเล่นมาก็ขาดไม่ได้แล้ว สำคัญคือผมเอาไว้ติดต่อลูกค้า มันเป็นอะไรที่สะดวกดี เพราะมันค่อนข้าง Real-Time เวลามีคนติดต่อมาจะรู้ได้ทันที (ยกเว้นเวลานอนกับตอนที่ปิด wifi)

Facebook
คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก อันนี้เล่นทุกวัน

Facebook Pages Manager
เอาไว้จัดการแฟนเพจครับ ผมทำงานด้านนี้ และมันก็เป็นอะไรที่สะดวกมาก ฟังชั่นจัดการเพจมันเยอะกว่าแอพ facebook ธรรมดาน่ะ

SocialCam
แอพนี้ผมไม่ค่อยได้อัพคลิปกับชาวบ้านเขานะ แต่เอาไว้ดูคลิปคนอื่นมากกว่า มันเพลินดี

iMoney
แอพสำหรับเช็คค่าเงิน ไม่ได้เปิดดูทุกวันแค่ดูอาทิตย์ละครั้ง เพราะรับฝากซื้อ iPhone จำเป็นต้องรู้ค่าเงิน เผื่อวันไหนค่าเงินเปลี่ยนแปลงมาก จะได้ตั้งราคาค่าบริการใหม่

Camera360
แอพทุกคนคู่ควร ผมใช้แอพนี้มาเกือบ 3 ปีแล้ว มันมีครบทุกอย่างที่ผมต้องการ หากเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนๆ ถือว่าพัฒนามาได้ไกลมาก …และไหลลื่นสุดๆ ถ้าใช้บน iPhone

Phone Drive
แอพสำหรับเก็บข้อมูลและไฟล์ต่างๆ แต่ผมเอามาใช้ฟังเพลงเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเวลาเดินทางไกลแล้วมันน่าเบื่อมาก การที่มีเพลงฟังไปตลอดทางจะทำให้การเดินทางไกลไม่น่าเบื่อ

Photo Transfer App
ที่บ้านผมใช้ Wifi และแอพนี้ก็เหมาะมากที่จะใช้ย้ายรูปภาพและวิดีโอไปยังอุปกรณ์อื่นๆ หรือคอมพิวเตอร์ …เป็นแอพเสียตังนะ แต่ดี

Speed Test
ใช้วัดความเร็วเน็ตครับ จะใช้ก็ตอนที่ออกไปข้างนอกแล้วลองวัดความแรงของ 3G ในพื้นที่ต่างๆ หรือบางครั้งที่เน็ตที่บ้านช้ากว่าปกติก็ลองวัดความแรงดู

Temple Run
เป็นเกมส์ที่เล่นเกือบทุกวันเลยครับ แต่ก่อนผมคลั่ง LINE POP ตอนนี้เบื่อ ก็เลยเปลี่ยนมาเล่นเกมนี้ สนุกดี ที่ชอบคือไม่ต้องต่อเน็ต ก็เล่นได้เพลินๆ

YouTube
มีคนส่งเพลงมาให้ผมฟังอยู่บ่อยๆ ก็เลยได้ใช้บ่อยๆ ถ้าอยากฟังเพลงอะไรปกติผมจะไม่โหลดเพลงมาฟัง แต่จะเข้ายูทูปแล้วหาเพลงฟัง

VOT
โครตชอบแอพนี้เลย เป็นแอพแนว To do list แต่ใช้วิธีบันทึกเสียง เวลาลูกค้าสั่งงานอะไรที่ซับซ้อนผมจะบันทึกเสียงพูดเอาไว้ เพราะบางทีจดไว้ก็ไม่เข้าใจ

บางทีมคนที่เข้ารอบถือว่าเป็นตัวเต็งมาตั้งแต่เนิ่นๆ แต่บางทีมก็ถือว่าพลิกล็อคถล่มทลาย อย่างทีมโค้ชคิ้ม ถือว่าเป็นแหล่งรวมของนักพ่นไฟ แต่เขาทั้งหลายต้องมีอันตกรอบไป …คือถึงแม้ว่ารายการนี้จะวัดกันที่เสียง แต่เสียงที่มีพลังมากกว่า ก็ใช่ว่าจะถูกใจประชาชนส่วนใหญ่เสมอไป โดยเฉพาะพลังแม่ยกนี่ประมาทไม่ได้เลย แม่ยกหลายคนรักใครเขากดโหวตให้จริงๆนะ ไม่ใช่แค่โหวตด้วยปาก

ในรอบนี้ ผมชอบอยู่หลายเพลงนะ บางคนยังรักษามาตราฐานได้ดีมาก บางคนมีเซอร์ไพร์ และบางคนก็ดูดรอปลง อาจเป็นเพราะเลือกเพลงไม่เหมาะสมหรือร้องแล้วมันไม่เข้าถึงคนดูก็ไม่รู้ โดยเฉพาะคนที่ร้องเพลงฝรั่ง ถ้าไม่แน่จริงมันยากมากที่จะเข้ารอบ เพราะคนเข้ารอบส่วนใหญ่ร้องเพลงไทย

แต๊ก – เสียใจแต่ไม่แคร์ – 11 Nov 2012

ต๊ะ ตระการ – กลับมาทำไม – 11 Nov 2012

กบ วีรศักดิ์ – Superman- 1 1 Nov 2012

สวย สโรชา – อยากสวย – 11 Nov 2012

กลม อรวี – Bleeding Love – 11 Nov 2012

ตุลย์ ตุลย์รยา – Up Side Down – 11 Nov 2012

นนท์ – กระเป๋าแบนแฟนยิ้ม-11 Nov 2012

นัท ณัฐวดี – Someone Like You – 11 Nov 2012

ฟิล์ม – กรุณาฟังให้จบ – 18 Nov 2012

คิง-อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ-18 Nov 2012

เก่ง ธชย – ชู้ – 18 Nov 2012

แม็กซ์ ณัฐวุฒิ – Nothin’ On You – 18 Nov 2012

ปุ้ย ดวงพร – 2 Dec 2012

แม็กซ์ ณัฐวุฒิ- 2 Dec 2012

เก่ง ธชย – 2 Dec 2012

คิง พิเชษฐ์ – 2 Dec 2012

ความเจ๋ง

Multitask Display
ทำงานได้สองจอพร้อมกัน ทำได้แบบนี้เห็นจะมีแต่ซัมซุงที่ทำได้

ดูวิดีโอขณะเปิดแอพตัวอื่นได้
ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็สามารถดูวิดีโอไปด้วยได้ (ยกเว้นตอนถ่ายภาพ)

S Note กับ S Pen
สองสิ่งนี้ทำให้ Note เป็น Note …สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นก็เคยทำแบบมีปากกาสำหรับเขียนด้วย แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่า Note 2

อื่นๆ
ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่แรงและอึด แบตที่ให้มาสามารถอยู่ได้ทั้งวัน ความเร็ว CPU quad-core 1.6 GHz และ RAM 2 GB เหลือกินเหลือใช้มากๆเลยครับสำหรับเล่นแอพและเกมส์เทพๆ

ความกาก

กล้อง
ถ่ายได้แย่กว่าหลายรุ่นที่ผมเคยใช้มา แม้แต่ Nokia 5800 มือถือสามปีก่อน ด้วยความละเอียด 3.2 PX กล้องยังเทพกว่าเลย …ปัญหาของ Note 2 อยู่ที่การคำนวนแสงของภาพ ทำได้ไม่สวยเลย (คือมันสวยแค่ในจอของ Samsung ดูผ่านจออื่นมันไม่สวยแล้ว)

การแก้คำ
หากจะก็อปปี้ วาง และแก้ไขคำ ทำได้ยากถ้าเล่นในแนวตั้งกับแอพบางตัว เพราะปุ่มสีฟ้ามันถูกคีบอร์ดกินพื้นที่ (ต้องเปลี่ยนมาใช้แนวนอน)

ซิงค์ Facebook
แอบงงที่ซิงค์รายชื่อ Facebook แล้วทำไมซิงค์รูปประจำตัวไม่ได้ จะแก้ไขรูปประจำตัวที่ถูกซิงค์ก็ไม่ได้

ซิงค์ Picasa ให้เอง
คือผมเข้าไปตั้งปิดซิงค์ภาพแล้วนะ ขนาดว่าลบบัญชีออก แล้วใส่ใหม่ แล้วปิดซิงค์ภาพ มันก็ยังซิงค์ให้เหมือนเดิม …เป็นอะไรที่รำคาญมาก เพราะภาพใน Picasa ผมมีเป็นพัน ทำให้เปิดดูภาพช้า

อื่นๆ
มีปัญหาที่เหมือน Android ทั่วๆไปอยู่ เช่น แอพปิดการทำงาน ซึ่ง Android เป็นแบบนี้ทุกเครื่องที่ผมเคยใช้งาน

สรุป
โดยสเปกถือว่า Note 2 เป็นรุ่นที่เทพที่สุดของบรรดาสมาร์ทโฟนระบบ Android ข้อเสียด้านอื่นๆที่ยกมาถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องใหญ่สำหรับผมคือ “กล้อง” ผมเคยใช้ S II นะ ซึ่งก็ถ่ายรูปสวยกว่านี้

ก่อนหน้านั้นผมใช้ HTC ONE V สเปคเหมือนจะพอดีใช้นะ เพราะไม่ได้เอามาเล่นเกมส์ ผมเน้นเอามาเล่นแอพทั่วไป …แต่ปรากฏว่ายิ่งใช้ก็ยิ่งช้า พอลงแอพมากเข้ามันก็เริ่มอืด สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น มีเหตุผลดังนี้

1. แรมน้อย
cpu ผมว่ามันไม่น้อยเกินไปหรอก แต่แรมสามร้อยกว่าๆมันน้อยเกินไปจริงๆ

2. Android 4.0
ระบบที่ต่ำกว่าผมก็เคยใช้ ผมใช้มาตั้งแต่รุ่น Android 1.6 สเปคต่ำกว่านี้มันก็ยังลื่นดี แต่เพราะระบบมันพัฒนาขึ้น จะมาใช้สเปคเดิมไม่ได้ (ถ้าอยากได้ลื่นๆ) อย่างน้อยก็ Dual core และแรมที่มากกว่านี้

3. sd card
มือถือที่ดี ควรมีความจุเพียงพอแบบไม่ต้องใส่ Sd card ก็ได้ …เพราะตัวการ์ดนี่ล่ะ ที่ทำให้การประมวลผลช้ากว่าเดิม และ ONE V ก็เป็นมือถือที่ต้องใส่การ์ด ถ้าไม่ใส่จะใช้งานแอพบางตัวไม่ได้

นั่นคือบทเรียนที่ผ่านมา คือผมเป็นคนใช้ ONE V ควบคู่มากับ iPhone 4S แล้วมันเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะ iPhone มันลื่นมาก ลื่นกว่า Android ตัวท็อปหลายๆตัว …แล้วจะประสาอะไรกับ Android สเปคธรรมดาๆ

ความลื่นมีผลต่อการใช้งาน ?
ใช้อะไรลื่นๆแล้วมันสบายตาไม่อึดอัด เพราะมือถือเป็นสิ่งที่ใช้ทุกวัน ลื่นสำหรับผมไม่ใช่แค่นิ้วไถไปแล้วมันเร็วนะ แต่หมายถึงการใช้งานโดยรวมของเครื่อง ถ้าลื่นก็คือไม่มีอาการหน่วง ไม่กระตุก เช่น เวลาใช้คีย์บอร์ด บางเครื่องจะรันคีบอร์ดช้า…แบบนี้เรียกว่าไม่ลื่น

ดังนั้น การเลือกมือถือที่เหมาะกับ “สมัยนี้” คือการเลือกมือถือสเปคที่เหมาะกับระบบ Android 4.0 – 4.1 และเผื่อ 4.2 ด้วย …ตอนนี้ผมใช้ Samsung Galaxy Note 2 แต่ไม่ได้จะมาบอกให้เลือก Note 2 นะ แต่จะแนะนำให้เลือกตามความพอดีใช้ที่เหมาะกับยุคสมัย

แนวคิดการเลือก
1. ควรเป็น Android 4.0 – 4.1 หรือ 4.2 ถ้าต่ำกว่านี้แนะนำว่า “อย่าเลย” ระบบใหม่กับระบบเดิมมันต่างกันมาก ระบบใหม่มันเร็วและทำงานได้ง่ายขึ้นแบบเห็นได้ชัด และสวยกว่าด้วย
2. ความเร็ว CPU Dual core และแรม 512 เป็นอย่างต่ำ หรืออย่างดีก็แรม 1 GB ขึ้นไป…สเปคที่ต่ำกว่านี้ หากใช้ไปนานๆมีหน่วงแน่
3. อย่าเพิ่งเชื่อวิดีโอรีวิวมือถือ …คนที่รีวิวมือถือส่วนใหญ่เขาจะได้ “เครื่องใหม่” เป็นเครื่องที่ยังลงแอพไม่มากหรือยังไม่ลงเพิ่มเลย เราอาจจะรู้สึกว่ามันลื่น เร็ว และไม่น่าจะมีปัญหาการใช้งานใดๆ แต่พอเอาเข้าจริง เมื่อลงแอพและใช้งานไปนานๆ มือถือจะเริ่ม “ออกลาย” โดยเฉพาะ Android เราจะเห็นธาตุแท้ เมื่อตอนลงแอพเยอะๆ นี่แหล่ะ
4. มีความจุภายในหรือ ROM ที่เพียงพอโดยที่ไม่ต้องใช้ SD card ก็ได้ …รอม 4 GB ขึ้นไป ผมว่าโอเคเลย แต่จะใส่ SD card ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนะ ถ้าเอาไว้ใส่เพลงใส่หนังอะไรแบบนี้ …ถ้าจะใส่ SD card ไว้ลงแอพหรือเอาไว้บันทึกไฟล์ ไม่แนะนำ
5. รองรับ 3G ทุกค่าย โดยเฉพาะคืน 2100 MHz จะเป็นคลื่นแห่งอนาคตของประเทศไทย (ส่วนประเทศอื่นเขากำลังไป 4G)
6. กล้องมี Auto focus …จำนวนพิกเซลไม่ใช่สิ่งสำคัญมากนัก เอาสัก 3.2 ขึ้นไปผมว่าก็โอเคแล้วสำหรับมือถือ สิ่งสำคัญอยู่ที่เลนส์และ Auto focus อยากรู้ว่าถ่ายสวยหรือไม่ให้ดูตัวอย่างจากภาพที่ถ่ายจริงโดยผู้ใช้ (ใม่ใช่ตัวอย่างจากโฆษณา)
7. ขนาดหน้าจอ เอาสัก 3.5 นิ้วผมว่าน้อยแล้วนะ ถ้าชอบแชทควรเป็นขนาดจอกว้างหน่อย มากกว่า 4 นิ้วยิ่งดี …จอ 4 นิ้วเดี๋ยวนี้แทบจะเป็นมาตรฐาน Android ยุคใหม่ไปแล้ว
8. แบตเตอรี่ ผมไม่แน่ใจว่าขั้นต่ำควรเป็นเท่าไหร่ ถ้าจะให้ดีก็ 1,500 mAh – 2,100 mAh ขึ้นไป
9. กล้องหน้า คุยแบบเห็นหน้าบนมือถือเดี๋ยวนี้เป็นเทคโนโลยีที่ธรรมดาสามัญไปแล้ว ถ้ามีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร
10. GPS, A-GPS ควรมีเป็นพื้นฐานเลยนะ แม้ไม่ใช่นักเดินทาง แต่เวลาใช้แอพพวกเช็คอิน รายงานสภาพอากาศ ฯลฯ จะได้แม่นยำ
11. หน้าจอควรเป็น Capacitive แบบ Multi-Touch ได้ ยิ่งสัมผัสได้หลายจุดยิ่งดี

ราคา ?
มีเงิน 6 พันกว่าบาท ก็ได้แล้วนะสเปคแบบนี้ เป็นของ i-mobile ถ้าแบรนด์อื่นก็จะแพงหน่อย รุ่นท็อปๆที่มีในตลาดก็ประมาณ 2 หมื่นต้นๆ แบรนด์ที่นิยมได้แก่ Samsung Oppo LG Sony และมือถือตระกูล Nexus (ที่ Google จะเวียนให้ผู้ผลิตรายต่างๆทำ)

พูดถึงการทำเว็บ การสร้างจุดเด่นและเอกลักษณ์ให้กับเว็บแบบที่ทำกันทั่วไปคือใช้สีสันและโลโก้ที่มีลักษณะเฉพาะ เว็บ maahalai.com ผมมีสีประจำเว็บคือ สีชมพู ส่วนความคิดที่อยากมีมาสคอตเข้ามาเพิ่ม เกิดจากเมื่อสองปีก่อนเพื่อนมาถามว่าเราน่าจะมีแอพให้คนเล่นบน facebook แต่ในตอนนั้นเรายังไม่มีสัญลักษณ์ที่จะนำมาใช้เป็นตัวแทนเว็บ ตอนนั้นมีแต่โลโก้ ถ้าให้ใช้โลโก้แล้วมันดูไม่น่าสนุกเท่าไหร่

ผมเลยเริ่มสร้างมาสคอตขึ้นมาเอง โดยในตอนแรกใช้ชื่อว่า MeMe เป็นสิ่งมีชีวิตสีชมพู ได้แรงบันดานใจมาจากตุ๊กตาหมี แต่สำหรับ MeMe มันไม่ใช่สัตว์ชนิดไหน ส่วนการวาด วาดด้วยแอพ Sketchbook Pro บน iPad วาดเสร็จแล้ว แต่พอนานๆกลับไม่ค่อยได้ใช้ เพราะมันวาดยาก ลายเส้นมันเนี๊ยบเกิน ปีนี้ผมเลยวาดใหม่และใช้ชื่อว่า พรัส (PRUZ) ลายเส้นวาดง่าย ดูน่ารักกว่าเดิม

มาสคอตใช้ทำอะไร
ผมนำมาสร้างสีสรรค์ให้กับเว็บ ใช้เป็นตัวแทนในการสื่อสาร คือผมชอบวาดรูปอยู่แล้ว ก็อยากจะมีอะไรที่ใช้เป็นตัวแทนเว็บ มากกว่าที่ใช้ใช้โลโก้ และที่สำคัญมาสคอตมันคือสิ่งมีชีวิต สัมผัสและเข้าถึงง่ายมากกว่าโลโก้

ตัวอย่างที่ใช้ทำ ผมจะวาดเป็นการ์ตูน มีความรู้มาแซมนิดหน่อยๆ ตามแนวทางของเว็บ maahalai คือเน้นให้ความรู้ที่เข้าถึงง่าย นำไปใช้ได้ทันที

แอพที่ใช้วาด
ผมใช้ Sketchbook Pro บน iPad วาดด้วยปากกา 3M เขียนได้ลื่นดี สำคัญคือสีที่ใช้ในแอพ มันเหมาะกับเว็บผมมากๆ ดูสบายตาดี

อนาคต
คงจะมีสื่อหลายๆอย่าง ที่ถูกสร้างออกมาพร้อมมาพร้อมกับ PRUZ เช่น เทมเพลทพาวเวอร์พ้อยท์ หรืออะไรที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

ความคาดหวัง
แค่มีคนรู้ว่ามี PRUZ อยู่บนโลกนี้ ก็โอเคแล้ว ไม่ได้หวังว่ามันจะเป็นการ์ตูนที่โด่งดังอะไร เหมือนกับเว็บที่ผมทำ ผมก็ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

ฮิต ไม่ ฮิต สำหรับผมไม่ได้วัดที่ตัวเลขนะ ผมวัดจากการพูดถึงในโซเชียลมีเดียของคนรอบตัว และแอพที่เหมือนกำลังจะหมดความนิยมลงไปอีกตัวนั่นก็คือ foursquare ผมรู้สึกว่าช่วงนี้คนเล่นกันแบบไม่ฮิตเหมือนแล้ว …ให้สังเกตง่ายๆว่าอะไรที่ฮิตฮอตกันมักจะมีดราม่า แต่ช่วงนี้แทบไม่เห็นดราม่าแย่งพื้นที่บน foursquare เลย ต่างกับ 2 ปีก่อนแอพนี้มีเพื่อนผมเช็คอินแทบทุกวัน …แต่เดี๋ยวนี้ไม่

เช็คอินแล้วได้อะไร
foursquare มันเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เหมือนมีเกมส์ให้เล่นในตัว หรือที่เรียกว่า “ศึกชิงเมเยอร์” ช่วงที่ผมติดมากๆ ไปไหนก็เช็คเพื่อที่จะเก็บแต้ม แล้วพยายามเป็นเมเยอร์ในสถานที่ที่ไปบ่อยๆ แต่ในบางที่ก็แอบมีดราม่า เพราะมีคนไปที่พื้นที่ซ้ำซ้อน เพื่อที่จะเป็นเมเยอร์เสียเองโดยที่ไม่ต้องตามหลังใคร …สรุปคือเช็คอินมันไม่ได้อะไรมากมายหรอก แต่เป็นการบอกเพื่อนว่ามาที่นี่แล้ว และการแย่งเป็นเมเยอร์กันมันก็เป็นความบันเทิง

จุดเปลี่ยน
foursquare เคยมีคู่แข่งใหญ่คือ Gowalla สุดท้ายก็ประกาศปิดตัวไปโดยเหตุผลมี 2 อย่างคือสู้ foursquare ไม่ได้ และก็ถูก Facebook ซื้อไป และจากนั้นไม่นาน Facebook อัพเกรดระบบครั้งใหญ่ ทำให้แอพที่โพสขึ้น Facebook มักจะไม่อยู่หน้าแรก และ Facebook เองก็มีระบบเช็คอิน …เท่านั้นแหล่ะ foursquare แทบจะไร้ที่ยืนบน facebook สังคมเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก

กลับเข้ามาดูทวิทเตอร์ ผมเหลือเพื่อนที่เล่น foursquare อยู่น้อยมาก แต่ยังดีที่ทวิทเตอร์มันจะแสดงทุกโพสแบบ Real-Time บนหน้าแรก ต่างจาก Facebook ที่บางโพสจะถูกคัดกรองไม่ให้แสดงบนหน้าแรกสำหรับเพื่อนบางคน คนที่ติดตามคุยกันบ่อยๆบนเฟสเท่านั้น ที่จะมองเห็นโพสของกันบ่อยๆบนหน้าแรก

สรุป คือ การอัพเกรดระบบของ Facebook ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ Foursquare หายไปจากหน้าแรก

ความเยอะ
foursquare เองก็มีการปรับปรุงอยู่บ่อยๆ ล่าสุดถ้าใครยังใช้ จะรู้สึกเหมือนว่ามันคือ “โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเต็มตัว คือมันก็ดีขึ้น สวยขึ้น มีอะไรให้เล่นมากขึ้น …แต่เล่นนานๆไปกลับ “เบื่อ”

เบื่อ
ท้ายสุดก็ด้วยเหตุผลนี้เองแหล่ะ จุดเด่นของแอพคือเช็คอินสถานที่ …แต่วันนี้มีแอพอื่นๆกำเนิดขึ้นมามากมาย แม้ว่าจะไม่ใช่คู่แข่งของ foursquare แบบตรงๆ แต่มันก็ทำให้คนลืม foursquare ได้เหมือนกัน ..นี่พูดเลย ถ้า Instagram ไม่มีระบบเช็คอิน ผมอาจจะเป็นอีกคนที่ลืมว่ามีแอพชื่อ foursquare

ทำงานฟรีแลนซ์ iPad ก็ช่วยได้เยอะอยู่นะ ส่วนตัวซื้อแอพไว้เยอะมาก โดยเฉพาะพวกจดบันทึกและการจัดการ…แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ ใช้บ่อยจริงๆเป็นแอพวาดรูปและแอพจัดการแฟนเพจ ส่วนงานทำพรีเซนท์แต่เดิมจะใช้ Keynote บน iPad ทำ สุดท้ายก็กลับไปใช้บนคอม รวมทั้งแอพหลายตัวที่เคยซื้อมาพอใช้ไปมันไม่ถนัดก็กลับไปใช้บนคอม เลยมีแค่แอพบางตัวที่ใช้มาอย่างสม่ำเสมอและการเป็นแอพที่ขาดไม่ได้เลย

SketchBook Pro
อันนี้เอามาวาดรูปลงแฟนเพจ Maahalai และใช้วาดรูปสำหรับลูกค้า เหตุที่ใช้แอพตัวนี้เพราะ SketchBook เป็นแอพที่ขึ้นชื่อสำหรับมืออาชีพอยู่แล้ว การใช้งานก็ไม่ยาก และมีพร้อมทุกอย่างสำหรับผม

PENGO
แอพวาดรูปอีกตัว ความสามารถไม่เหลือล้นเท่า SketchBook แต่ที่ผมชอบตรงที่กำหนดหน้ากระดาษให้เป็น 1:1 ได้ เวลาวาดภาพจะได้อัพขึ้น Instagram ได้สะดวก

Facebook Pages Manager
เป็นแอพของ Facebook เอง เอาไว้จัดการแฟนเพจให้ของตัวเองและของลูกค้า …ตั้งแต่มีแอพตัวนี้ ชีวิตผมง่ายขึ้นเยอะเลย เพราะงานหลักคือบริหารแฟนเพจ

mSecure
เป็นแอพที่ขาดไม่ได้เลย ผมใช้มันเก็บรหัสลับต่างๆ ที่ไปสมัครตามเว็บ และเว็บของตัวเอง แต่ที่ใช้บ่อยๆคือเก็บพาสเวิร์ดของธนาคาร เพราะต้องคอยเช็คเงินอยู่เสมอเวลาที่ลูกค้าแจ้งโอนเงิน …เวลาลูกค้าโอนเงินมา ผมไม่ใช้เช็ค SMS เป็นหลักนะ ผมเช็คออนไลน์กับธนาคาร

GarageBand
ผมไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับดนตรีเลยนะ แต่เวลาที่มีลูกค้าจ้างให้อัพเสียงลงพาวเวอร์พ้อยท์ ก็ใช้แอพตัวนี้ล่ะบันทึกเสียง…มันดีกว่าแอพหลายตัวที่เคยใช้ตรงที่มีระบบตัดเสียงรบกวน และส่งออกเสียงเข้าคอมพิวเตอร์ได้ง่ายๆผ่านอีเมล์

Calculator Pro
ส่วนตัวแล้วคิดอยู่แค่ บวก ลบ คูณ หาร เท่านั้นล่ะ ผมเคยโหลดตอนเขาแจกฟรี ก็เลยได้ใช้ตลอกดมา …ที่ผมใช้บ่อยๆคือเวลาลูกค้ามาสั่งซื้อแอพ และคำนวนค่าจ้างงานต่างๆ

Picshop
แอพแก้ไขภาพที่ครบเครื่องทีเดียว ก่อนหน้านั้นผมใช้ Snapseed ครบสามารถมันก็พอๆกันและคนไทยใช้กันเยอะมาก …แต่ผมไม่ชอบหน้าตาของแอพ เลยเปลี่ยนมาใช้ Picshop

Photo Transfer App
แอพตัวนี้ยังใช้อยู่เรื่อยมา เวลาที่ผมรีวิวแอพเสร็จ ก็จะใช้แอพโอนภาพจาก iPad ไป PC ผ่านสัญญาณไวไฟ

TeamViewer
เวลาที่แฟนเพจลูกค้ามีปัญหา แล้วผมไม่เข้าใจปัญหา หรือเข้าไปจัดการแฟนเพจไม่ได้ ผมจะใช้แอพตัวนี้เข้าไปจัดการคอมพิวเตอร์ลูกค้า ทำให้ช่วยแก้ไขงานได้เสมือนว่านั่งทำงานอยู่กับลูกค้าเลยทีเดียว

iMoney
แอพนี้ใช้เช็คค่าเงินบาท ต้องคอยติดตามอยู่ทุกๆอาทิตย์ เพราะงานอีกอย่างของผมคือรับฝากซื้อแอพ เอาไว้วิเคราะห์สถานการณ์ว่าในแต่ละอาทิตย์จะได้กำไรเท่าไหร่ ต่อการสั่งซื้อที่ฝากมาแต่ละวัน