แนวคิดเลือกมือถือ Android “สมัยนี้” และข้อผิดพลาดที่ผ่านมา

เลือกซื้อมือถือ Android เหมือนเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เลยครับ ดูความต้องการของตัวเองและพิจารณาสเปคเครื่อง …และถ้าพูดถึงสเปคเครื่องจะให้ไปเทียบกับเสปก Android ในอดีตคงไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีมันเปลี่ยน แต่ก่อนมือถือความเร็ว CPU 1 Ghz นี่หรูมากเลยนะ …แต่ CPU 1 Ghz แทบจะเรียกว่าเป็นเต่าคลานกันเลยทีเดียว

Android

ก่อนหน้านั้นผมใช้ HTC ONE V สเปคเหมือนจะพอดีใช้นะ เพราะไม่ได้เอามาเล่นเกมส์ ผมเน้นเอามาเล่นแอพทั่วไป …แต่ปรากฏว่ายิ่งใช้ก็ยิ่งช้า พอลงแอพมากเข้ามันก็เริ่มอืด สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น มีเหตุผลดังนี้

1. แรมน้อย
cpu ผมว่ามันไม่น้อยเกินไปหรอก แต่แรมสามร้อยกว่าๆมันน้อยเกินไปจริงๆ

2. Android 4.0
ระบบที่ต่ำกว่าผมก็เคยใช้ ผมใช้มาตั้งแต่รุ่น Android 1.6 สเปคต่ำกว่านี้มันก็ยังลื่นดี แต่เพราะระบบมันพัฒนาขึ้น จะมาใช้สเปคเดิมไม่ได้ (ถ้าอยากได้ลื่นๆ) อย่างน้อยก็ Dual core และแรมที่มากกว่านี้

3. sd card
มือถือที่ดี ควรมีความจุเพียงพอแบบไม่ต้องใส่ Sd card ก็ได้ …เพราะตัวการ์ดนี่ล่ะ ที่ทำให้การประมวลผลช้ากว่าเดิม และ ONE V ก็เป็นมือถือที่ต้องใส่การ์ด ถ้าไม่ใส่จะใช้งานแอพบางตัวไม่ได้

นั่นคือบทเรียนที่ผ่านมา คือผมเป็นคนใช้ ONE V ควบคู่มากับ iPhone 4S แล้วมันเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะ iPhone มันลื่นมาก ลื่นกว่า Android ตัวท็อปหลายๆตัว …แล้วจะประสาอะไรกับ Android สเปคธรรมดาๆ

ความลื่นมีผลต่อการใช้งาน ?
ใช้อะไรลื่นๆแล้วมันสบายตาไม่อึดอัด เพราะมือถือเป็นสิ่งที่ใช้ทุกวัน ลื่นสำหรับผมไม่ใช่แค่นิ้วไถไปแล้วมันเร็วนะ แต่หมายถึงการใช้งานโดยรวมของเครื่อง ถ้าลื่นก็คือไม่มีอาการหน่วง ไม่กระตุก เช่น เวลาใช้คีย์บอร์ด บางเครื่องจะรันคีบอร์ดช้า…แบบนี้เรียกว่าไม่ลื่น

ดังนั้น การเลือกมือถือที่เหมาะกับ “สมัยนี้” คือการเลือกมือถือสเปคที่เหมาะกับระบบ Android 4.0 – 4.1 และเผื่อ 4.2 ด้วย …ตอนนี้ผมใช้ Samsung Galaxy Note 2 แต่ไม่ได้จะมาบอกให้เลือก Note 2 นะ แต่จะแนะนำให้เลือกตามความพอดีใช้ที่เหมาะกับยุคสมัย

แนวคิดการเลือก
1. ควรเป็น Android 4.0 – 4.1 หรือ 4.2 ถ้าต่ำกว่านี้แนะนำว่า “อย่าเลย” ระบบใหม่กับระบบเดิมมันต่างกันมาก ระบบใหม่มันเร็วและทำงานได้ง่ายขึ้นแบบเห็นได้ชัด และสวยกว่าด้วย
2. ความเร็ว CPU Dual core และแรม 512 เป็นอย่างต่ำ หรืออย่างดีก็แรม 1 GB ขึ้นไป…สเปคที่ต่ำกว่านี้ หากใช้ไปนานๆมีหน่วงแน่
3. อย่าเพิ่งเชื่อวิดีโอรีวิวมือถือ …คนที่รีวิวมือถือส่วนใหญ่เขาจะได้ “เครื่องใหม่” เป็นเครื่องที่ยังลงแอพไม่มากหรือยังไม่ลงเพิ่มเลย เราอาจจะรู้สึกว่ามันลื่น เร็ว และไม่น่าจะมีปัญหาการใช้งานใดๆ แต่พอเอาเข้าจริง เมื่อลงแอพและใช้งานไปนานๆ มือถือจะเริ่ม “ออกลาย” โดยเฉพาะ Android เราจะเห็นธาตุแท้ เมื่อตอนลงแอพเยอะๆ นี่แหล่ะ
4. มีความจุภายในหรือ ROM ที่เพียงพอโดยที่ไม่ต้องใช้ SD card ก็ได้ …รอม 4 GB ขึ้นไป ผมว่าโอเคเลย แต่จะใส่ SD card ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนะ ถ้าเอาไว้ใส่เพลงใส่หนังอะไรแบบนี้ …ถ้าจะใส่ SD card ไว้ลงแอพหรือเอาไว้บันทึกไฟล์ ไม่แนะนำ
5. รองรับ 3G ทุกค่าย โดยเฉพาะคืน 2100 MHz จะเป็นคลื่นแห่งอนาคตของประเทศไทย (ส่วนประเทศอื่นเขากำลังไป 4G)
6. กล้องมี Auto focus …จำนวนพิกเซลไม่ใช่สิ่งสำคัญมากนัก เอาสัก 3.2 ขึ้นไปผมว่าก็โอเคแล้วสำหรับมือถือ สิ่งสำคัญอยู่ที่เลนส์และ Auto focus อยากรู้ว่าถ่ายสวยหรือไม่ให้ดูตัวอย่างจากภาพที่ถ่ายจริงโดยผู้ใช้ (ใม่ใช่ตัวอย่างจากโฆษณา)
7. ขนาดหน้าจอ เอาสัก 3.5 นิ้วผมว่าน้อยแล้วนะ ถ้าชอบแชทควรเป็นขนาดจอกว้างหน่อย มากกว่า 4 นิ้วยิ่งดี …จอ 4 นิ้วเดี๋ยวนี้แทบจะเป็นมาตรฐาน Android ยุคใหม่ไปแล้ว
8. แบตเตอรี่ ผมไม่แน่ใจว่าขั้นต่ำควรเป็นเท่าไหร่ ถ้าจะให้ดีก็ 1,500 mAh – 2,100 mAh ขึ้นไป
9. กล้องหน้า คุยแบบเห็นหน้าบนมือถือเดี๋ยวนี้เป็นเทคโนโลยีที่ธรรมดาสามัญไปแล้ว ถ้ามีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร
10. GPS, A-GPS ควรมีเป็นพื้นฐานเลยนะ แม้ไม่ใช่นักเดินทาง แต่เวลาใช้แอพพวกเช็คอิน รายงานสภาพอากาศ ฯลฯ จะได้แม่นยำ
11. หน้าจอควรเป็น Capacitive แบบ Multi-Touch ได้ ยิ่งสัมผัสได้หลายจุดยิ่งดี

ราคา ?
มีเงิน 6 พันกว่าบาท ก็ได้แล้วนะสเปคแบบนี้ เป็นของ i-mobile ถ้าแบรนด์อื่นก็จะแพงหน่อย รุ่นท็อปๆที่มีในตลาดก็ประมาณ 2 หมื่นต้นๆ แบรนด์ที่นิยมได้แก่ Samsung Oppo LG Sony และมือถือตระกูล Nexus (ที่ Google จะเวียนให้ผู้ผลิตรายต่างๆทำ)

Facebook Comments