คดีนี้ Samsung จะเสียอะไรนอกจากเงิน

Samsung vs Apple เป็นข่าวใหญ่ของวงการไอทีมาได้สักพักหนึ่ง ผลก็เป็นอย่างที่ทราบ ซัมซุงพ่ายแพ้คดีที่สหรัฐอเมริกาแล้วก็กลายเป็นข่าวไปทั่วโลก สาวกสองฝ่ายก็ออกมาดราม่ากันตามธรรมเนียม

iPhone Samsung

ในความเป็น “รูปธรรม” ซัมซุงจะต้องจ่าย 32,000 ล้านบาท แต่ก็มีสิทธิ์ยื่นอุธรได้ หากนำไปเทียบกับรายได้ที่มีอยู่ของซัมซุงมันก็เป็นเงินจิ๊บๆ

แต่การสู้กันครั้งนี้มันไม่ใช่การทำลายธุรกิจระหว่างกัน ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงิน ซัมซุงแพ้ ไม่ได้หมายความว่าซัมซุงจะเจ๊งซะทีเดียว บริษัทมีผลกระบ้างแต่ก็ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ อีกทั้ง Apple กับ Samsung ก็เป็นคู่ค้ากันอยู่ โดยซัมซุงเป็นฝ่ายผลิตอุปกรณ์บางอย่างให้กับแอปเปิ้ล

การสู้กันครั้งนี้จึงเหมือนการสู้กันระหว่าง App กับ Samsung ที่เป็นตัวแทนของ Android ทั้งหมด …แต่ทำไม Apple ไม่ฟ้องแบบจัดหนักกับเจ้าอื่นแต่เป็นซัมซุง Apple ก็เคยฟ้องบริษัทอื่น แต่กับซัมซุงมันเป็นข่าวใหญ่มากกว่า

ผมแบ่งการฟ้องเป็น 2 ประเด็น คือ ละเมิดสิทธิบัตรของฟังชันการทำงาน กับ ลอกดีไซน์ เรื่องฟังชันการทำงานผมว่าประเด็นนี้คุยได้ยาว แต่ที่ผมสนใจคือการ “ลอกดีไซน์” ผมว่ามันร้ายแรงกว่าเรื่องฟังชันการทำงานด้วยซ้ำไป

ลักษณะของตัวเครื่องเป็นอะไรที่บ่งบอกถึงรสนิยมพอสมควร สิ่งที่ Apple ขาย ไม่ใช่แค่ความสามารถของเครื่อง แต่ขายรสนิยมไปด้วย เหมือนกระเป๋าทำไมต้องเป็นหลุยส์ เสื้อยีนส์แม็ค รถเฟอรารี่ อะไรประมาณนี้ ของพวกนี้อย่างอื่นมันทดแทนได้ แต่ความรู้สึกที่ได้ใช้มันต่างกัน มันแทนกันได้ยาก

และการลอกงานดีไซน์ของซัมซุงก็เหมือนกับการ “ลอกความรู้สึก” ที่จะได้ลับจากจากใช้ซัมซุง ทำให้มือถือบางรุ่นของซัมซุงถูกข้อครหาว่าไปเหมือนกับ iPhone โดยเฉพาะ Samsung Galaxy S ที่ไปเหมือน iPhone 3GS กับ Samsung Cooper ที่ไปเหมือนกับ iPhone 4 …คือมันไม่ได้เหมือนทีเดียว ไม่ได้เหมือนแบบจีนก็อบ แต่เป็นการลอกโดยปรับดีไซน์ให้รู้สึกว่าคล้าย ไม่ได้ให้เหมือน 100%

ดังนั้นเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของ “ความรู้สึกของผู้ใช้” มากกว่า การที่ Apple ออกมาฟ้องดคีก็เหมือนกับการปกป้อง ไม่ให้ความรู้สึกนี้ ไปตกอยู่กับผลิตภัณฑ์อื่น ซึ่งก็คือซัมซุงที่ลอกงานออกแบบจนถูกแบนห้ามขายไปหลายรุ่น

ถ้านับตั้งแต่รุ่น Samsung Galaxy S นั่นคือความพยายามที่จะลอกอย่างชัดเจน ในตอนนั้น Android มันไม่ใช่แบบนี้ ไม่มีไอคอนสี่เหลี่ยม บนหน้าแอพกดดูแบบเลื่อนขึ้นลง ไม่ใช่ปัดซ้ายขวา และไม่มีปุ่มตรงกลางใหญ่ๆแบบ iPhone …หลังจากรุ่นนั้น รุ่นต่อมาก็มาเป็นแนวๆนี้อยู่หลายเครื่อง โดยเฉพาะตระกูล Galaxy

ตอนนี้ ซัมซุงไม่ได้ลอกหนักๆแบบเดิมแล้ว หลังๆมาก็พยายามฉีกแนวอยู่ อย่างรุ่น S3 ที่พัฒนาไปแบบเกือบจะล้ำหน้า iPhone ไปแล้ว แต่พอมี S-Voice มันเหมือนเขาจงใจที่จะลอก “ความรู้สึกของผู้ใช้ Siri” เพราะหน้าตาและการใช้งานคล้ายกัน …ต่างกับ Google Now ใช้เหมือนกันกับ Siri แต่ไม่ถือว่าเป็นการลอก เพราะดีไซน์ต่างกันสิ้นเชิง ความรู้สึกการใช้มันจึงต่างกัน

ผลของข่าว
ตอนนี้ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม คนจะนิยมมือถือซัมซุงมากขึ้นหรือจะลดลง อันนี้ไม่ขอกล่าว ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาตร์จะมาวิเคราะห์เรื่องการขายได้ แต่สิ่งที่จะวิเคราะห์ได้ต่อไปนี้คือ “ความรู้สึกของผู้ใช้มือถือ Samsung” ที่อาจจะไม่ได้เหมือนเดิม จากที่ถือแล้วมันล้ำมันดูดี อาจกลายเป็นว่าถือของก็อป iPhone โดยเฉพาะกับซัมซุงรุ่นที่เปิดตัวเมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว

คำถาม : แบบไหนถึงไม่เหมือน
มือถือ Android มีหลายเจ้ามากๆ แต่ทำไมถึงต้องเป็นซัมซุง คือ ลองหยิบมือถือของ Sony, HTC, Motorola, Acer และรุ่นอื่นๆ จับมาเทียบกับ iPhone ยังงัยก็ไม่คล้ายกัน ทั้งรูปลักษณ์และปุ่มกดบนเครื่อง มันมีเอกลักษณ์ของความเป็นมือถือแต่ละบริษัทอยู่ …จริงๆซัมซุงก็มีเอกลักษณ์ของเขาอยู่ หากนำไปเทียบกับ Android ด้วยกัน ที่มีปัญหา เพราะถ้านำไปเทียบกับผลิตภัณฑ์ของ Apple แล้วมันดันเหมือนกว่าเจ้าอื่นๆ

Facebook Comments