ก่อนจะตกงาน…เรียนอย่างไรให้มีงานทำ

ก่อนจะได้เข้าเรียนในระดับชั้นมหาวิทยาลัย ผมเคยคิดว่านะว่าเรียนอะไรก็ต้องไปทางนั้น  แต่มีบางสิ่งที่ทำให้ผมต้องคิดใหม่ เมื่อถึงช่วงที่มหาวิทยาลัยจัดงานรับปริญญา รุ่นพี่ในเอกประวัติศาสตร์ที่จบไปแล้วก้กลับมา  แต่ละคนที่กลับมาจะมองหาคนที่ทำงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่เรียนมาแทบไม่ได้เลย คือมีบ้างแต่หายาก แม้แต่เพื่อนรุ่นเดียวกันกับผมที่เรียนจบไปหลายคนก็ไม่ได้ทำานด้านประวัติศาสตร์หรือที่เรียนมาโดยตรง

ในระหว่างที่เรียนอยู่เรื่องหางานทำหลัเรียนจบก็เคยคุยกับเพื่อนอยู่หลายครั้งว่าจบไปเราจะไปทำอะไร เพราะประวัติศาสตร์มันยากมาก คนที่จะทำงานด้านนี้ได้ต้องเก่งพอสมควร  พอขึ้นปี 3 ปี 4 ก็รู้ตัวแล้วว่าคงไม่ได้ทำงานด้านประวัติศาสตร์ต่อ แล้วตอนนั้นผมเล็งว่าจะทำงานด้านพิพิธภัณฑ์ เพราะตอนนั้นมีแบ่งสาขาแล้วผมก็เลือกมาอยู่พิพิธภัณฑ์

แต่ว่า…จะประวัติศาสตร์หรือพิพิธภัณฑ์ งานมันไม่ได้เปิดกว้าง ใช่ว่าจะหางานกันง่ายๆ  แต่ทางเลือกไปทำานอื่นๆก็มีอยู่นะ เกี่ยวกับงานสายสังคม เช่น นักวิชาการ นักเขียน หรืองานหลายๆอย่างเขาก็ไม่ได้จำกัดสายวิชาเช่นพนักงานโรงงาน  เพื่อนผมคนหนึ่งจบประวัติศาสตร์เหมือนกันก็ไปทำงานโรงงานทำยางยนตร์ ประวัติศาสตร์ที่เรียนมาไม่ได้เกี่ยวข้องเลย แต่ได้ทำงานแบบฝึกงานก่อนแล้วค่อยบรรจุเป็นพนักงาน

ค้นดูรูปเก่าๆ นึกได้ว่าเคยจัดติวน้องด้วย

ในระหว่างเรียนทำอะไรบ้าง…

ผมไม่ใช่คนที่เรียนหนังสืออย่างเดียวนะ ในระหว่างเรียนผมได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่าง เช่น กรรมการชมรม นักกีฬา สต๊าฟเชียร์ ในเวลาว่างก็เข้าเน็ตหาความรู้ใหม่ๆ มองหาสิ่งใหม่ๆ นอกเหนือไปจากสิ่งที่เรียนอยู่  ชีวิตแต่ละคนมันไม่ได้มีด้านเดียวอยู่แล้ว แต่ละคนก็จะมีสิ่งที่สนใจเป็นการส่วนตัว ตอนนั้นผมสนใจงานออกแบบ งานพาวเวอร์พ้อย และการทำเว็บบอร์ด  แต่ไม่มีงานไหนทำได้เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเรียนหนักมาก แต่แม้ว่าสิ่งที่ทำจะไม่ใช่งานที่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ได้ทำ ได้เรียนรู้ ได้ผ่านมันมาในระดับหนึ่ง

ระหว่างที่เรียน ผมโชคดีอีกอย่างหนึ่งที่มีเพื่อนสนใจการเล่นคอมเหมือนกัน ซึ่งหายากในกลุ่มคนเรียนประวัติศาสตร์สมัยนั้น เพื่อนคนนี้แนะนำโปรแกรมหลายๆอย่างให้ผมได้ลอง ซึ่งความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ผมในตอนนั้นยังอยู่ในระดับที่เรียกว่าลงโปรแกรมแกรมเองยังยาก ผมก็ได้จับได้ผ่านมันมาบ้าง  แต่การได้ลองได้เรียนรู้การใช้โปรแกรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยสัมผัส มันกลับกลายเป็นพื้นฐานที่ดีมาก  ผมอยู่กับการได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ไม่ถึงปีก็กลายเป็นคนเก่งคอมมากที่สุดในกลุ่มเพื่อน สังเกตจากเวลาไวรัสเล่นงาน คอมค้าง คอมอืด แล้วเพื่อนมาปรึกษา มีปัญหาคอมแล้วเราให้คำแนะนำได้ถึงรู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไป  คือผมแวดล้อมไปด้วยกลุ่มคนที่อยู่กับหนังสือ อยู่กับวงเหล้า มากกว่าอยู่หน้าคอม ก็เลยเหนือกว่าคนอื่นๆในด้านนี้เพราะนี่คือสายสังคม  แล้วในสมัยนั้นโน๊ตบุ๊คยังไม่รุ่งเรือง จึงไม่รู้จักการใช้คอมมากเท่าไหร่  …ต่างกันกับนักศึกษายุคนี้อ่ะนะ ที่โน๊ตบุ๊คเป็นสิ่งจำเป็น ใครๆก็มี

แล้ว…..จากสิ่งที่ได้ทำ ในสิ่งที่ผ่านมา ในที่สุดผมก็ทำให้ผมทำงานในด้านนี้ คงไม่ต้องบอกนะว่าทำงานอะไรอยู่

ส่วนเพื่อนคนอื่นๆระหว่างเรียนก็มีกิจกรรมส่วนตัว รูมเมทผมชอบอ่านหนังสือสงคราม ทหาร และความรู้ตำรวจทหาร  เคยไปสอบไม่ติดก็หลายครั้ง  แต่ตอนนี้ก็ไปเป็นทหารเรียบร้อยสมกับที่พยายาม  บางคนก็ไปเป็นพนักงานเซเว่น เด็กเฝ้าร้านเกมส์  ผู้ช่วยบรรณารักษ์ ฯลฯ ระหว่างเรียนก็มีงานให้ทำเยอาะแยะ แต่อยู่ที่ว่าเราจะทำหรือปล่าว เราได้พยายามมั้ย

จะทำอะไรก็ตาม อาจเริ่มจากสิ่งเล็กๆก่อนก็ได้ ขอแค่ได้ลองก่อน จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ให้ได้ลองทำ อย่าไปตีกรอบว่าไปได้ทางเดียวถ้าหากว่าทางนั้นมันไปไม่ได้แล้ว คุณอาจจะได้เป็นหนึ่งในบัณฑิตจบใหม่ ไม่มีงานทำ งานทุกวันนี้มันหายากนะครับ

Facebook Comments