Samsung – Makky.in.th http://makky.in.th ถึงเวลา เดี๋ยวเรื่องก็มาเอง Wed, 31 Aug 2016 09:05:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.1.4 Samsung Galaxy Note II กับ 3 ความเจ๋งและ 4 ความกาก http://makky.in.th/2379/ http://makky.in.th/2379/#comments Wed, 05 Dec 2012 13:53:01 +0000 http://makky.in.th/?p=2379 สมาร์ทโฟนจะรุ่นไหนก็ตาม พอใช้ไปนานๆ ความกากจะค่อยๆปรากฏขึ้นมา สำหรับ Note 2 มันก็มีทั้งความกากและความเทพ ถึงจะมีสิ่งที่ไม่น่าพอใจอยู่บ้าง แต่ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่แบบว่าใช้ไม่ได้ ผมใช้สมาร์ทโฟนอยู่สองเครื่อง บางอย่างที่แย่ใน Note 2 ผมใช้ให้อีกเครื่องหนึ่งทำงานแทน

ความเจ๋ง
Samsung Note 2

Multitask Display
ทำงานได้สองจอพร้อมกัน ทำได้แบบนี้เห็นจะมีแต่ซัมซุงที่ทำได้

Samsung Note 2

ดูวิดีโอขณะเปิดแอพตัวอื่นได้
ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็สามารถดูวิดีโอไปด้วยได้ (ยกเว้นตอนถ่ายภาพ)

Samsung Note 2

S Note กับ S Pen
สองสิ่งนี้ทำให้ Note เป็น Note …สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นก็เคยทำแบบมีปากกาสำหรับเขียนด้วย แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่า Note 2

อื่นๆ
ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่แรงและอึด แบตที่ให้มาสามารถอยู่ได้ทั้งวัน ความเร็ว CPU quad-core 1.6 GHz และ RAM 2 GB เหลือกินเหลือใช้มากๆเลยครับสำหรับเล่นแอพและเกมส์เทพๆ

ความกาก

Samsung Note 2

กล้อง
ถ่ายได้แย่กว่าหลายรุ่นที่ผมเคยใช้มา แม้แต่ Nokia 5800 มือถือสามปีก่อน ด้วยความละเอียด 3.2 PX กล้องยังเทพกว่าเลย …ปัญหาของ Note 2 อยู่ที่การคำนวนแสงของภาพ ทำได้ไม่สวยเลย (คือมันสวยแค่ในจอของ Samsung ดูผ่านจออื่นมันไม่สวยแล้ว)

Samsung Note 2

การแก้คำ
หากจะก็อปปี้ วาง และแก้ไขคำ ทำได้ยากถ้าเล่นในแนวตั้งกับแอพบางตัว เพราะปุ่มสีฟ้ามันถูกคีบอร์ดกินพื้นที่ (ต้องเปลี่ยนมาใช้แนวนอน)

Samsung Note 2

ซิงค์ Facebook
แอบงงที่ซิงค์รายชื่อ Facebook แล้วทำไมซิงค์รูปประจำตัวไม่ได้ จะแก้ไขรูปประจำตัวที่ถูกซิงค์ก็ไม่ได้

Samsung Note 2

ซิงค์ Picasa ให้เอง
คือผมเข้าไปตั้งปิดซิงค์ภาพแล้วนะ ขนาดว่าลบบัญชีออก แล้วใส่ใหม่ แล้วปิดซิงค์ภาพ มันก็ยังซิงค์ให้เหมือนเดิม …เป็นอะไรที่รำคาญมาก เพราะภาพใน Picasa ผมมีเป็นพัน ทำให้เปิดดูภาพช้า

อื่นๆ
มีปัญหาที่เหมือน Android ทั่วๆไปอยู่ เช่น แอพปิดการทำงาน ซึ่ง Android เป็นแบบนี้ทุกเครื่องที่ผมเคยใช้งาน

สรุป
โดยสเปกถือว่า Note 2 เป็นรุ่นที่เทพที่สุดของบรรดาสมาร์ทโฟนระบบ Android ข้อเสียด้านอื่นๆที่ยกมาถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องใหญ่สำหรับผมคือ “กล้อง” ผมเคยใช้ S II นะ ซึ่งก็ถ่ายรูปสวยกว่านี้

]]>
http://makky.in.th/2379/feed/ 19
ความรู้สึกที่แตกต่างระหว่าง S-PEN กับปากกา iPad http://makky.in.th/2366/ http://makky.in.th/2366/#comments Fri, 23 Nov 2012 18:30:48 +0000 http://makky.in.th/?p=2366 คนที่ชอบวาดรูป อาจต้องลังเลแน่นอน ถ้าจะซื้อแท็ปเลทมาวาดรูป ถ้านึกถึงการเขียนทุกคนต้องนึกถึง Galaxy Note เพราะมีจุดขายที่ชัดเจน นั่นคือปากกา S-PEN และ S-NOTE

ตอนนี้ผมมีอยู่ 2 อุปรกณ์คือ Galaxy Note 2 และ iPad ..ทั้งสองอย่างไม่สามารถใช้แทนกันได้เลย แม้แต่เรื่องการวาด Note 2 นั้นเหมาะแก่การพกพา หยิบจับง่ายวาดได้เร็ว ส่วน iPad ใช้วาดกับงานที่ต้องการความละเอียด

IMG_1740

S-PEN
จุดเด่นคือลื่นและแม่นยำ เป็นปากกาที่ออกแบบมาเพื่อการเขียนได้ดีมาก แต่ใช้กับอุปกรณ์ไม่ได้ ใช้บน Note ได้อย่างเดียว

รูปร่าง
คล้ายปากกาหัวแหลม น้ำหนักเบา

เวลาเขียน
ด้วยความที่มันมีน้ำหนักเบาและลื่น ตอนเขียนมือต้องนิ่ง เพราะเส้นมันไปเร็วมาก

ความเหมาะของงาน
เหมาะกับงานสเก็ตภาพหรืองานหยาบๆ ด้วยแอพที่มียังไม่สามารถทำงานระดับสูงได้ แต่ถ้าสไตล์การวาดไม่ใช่งานที่ละเอียด แค่ S-PEN กับ S-Note ก็เหลือเฟือแล้วครับ

IMG_1741

ปากกา iPad
จะเป็นปากกา iPad หรือ iPhone ก็เอามาวาดบน Note ได้ ปากกาพวกนี้ยิ่งแพงก็ยิ่งดี สินค้าพวกนี้มันมีหลายเกรดและหลายแบบ …รุ่นที่ผมใช้อยู่นั้น 500 บาทขึ้นไป สำหรับคนที่รักการวาด ราคาเท่านี้ถือว่าไม่แพง

รูปร่าง
ปากกาส่วนใหญ่จะเป็นหัวคล้ายๆยางลบดินสอ ลื่นหรือไม่ลื่นอยู่ที่คุณภาพปากกาที่ใช้ แต่ที่ลื่นเท่า S-PEN ผมยังไม่เคยใช้ …ลื่นเท่า S-PEN คิดว่าคงไม่มี

เวลาเขียน
ลายเส้นมันไม่ได้ไหลเร็ว เวลาวาดจะทำได้นิ่งกว่า S-PEN …แต่เอามาวาดบน Note รู้สึกจะทำได้ดีกว่าวาดบน iPad ด้วยซ้ำไป

ความเหมาะของงาน
ถ้าต้องการความปราณีตผมว่าปากกา iPad ทำได้ดีกว่า แม้จะวาดบน Note ก็ตาม …แต่อยากจะบอกว่าถ้าใช้ iPad จะมีแอพให้เลือกสรรเยอะกว่า Note ที่เป็น Android มากๆ ดังนั้น โอกาสที่จะสร้างงานได้หลากหลายรูปแบบจึงมีมาก เหมาะทั้งที่จะใช้วาดเล่นๆไปจนถึงมืออาชีพ

สรุป
ปากกา iPad แม้จะวาดบน Note แล้วลายเส้นนิ่งกว่า ใช้กับ iPad ก็สร้างสรรค์งานได้หลากหลายกว่า ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีกว่า S-PEN นะ …มันอยู่ที่ความเหมาะสม ชอบเสก็ตภาพชอบทำอะไรเร็วๆ S-Note กับ S-PEN ทำคู่กันได้ดี แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องการความปราณีตหรืองานที่หลากหลายกว่านั้น ใช้ iPad คู่กับปากกา iPad ไปเลย

และถ้าชอบอะไรที่พกพาสะดวกพอๆกับ Note ก็เห็นจะเป็น iPad mini ซึ่งผมยังไม่ได้ลอง ถ้ามีโอกาสแล้วจะมาเล่าสู่กันใหม่

]]>
http://makky.in.th/2366/feed/ 9
คดีนี้ Samsung จะเสียอะไรนอกจากเงิน http://makky.in.th/2240/ http://makky.in.th/2240/#comments Mon, 27 Aug 2012 19:05:12 +0000 http://makky.in.th/?p=2240 Samsung vs Apple เป็นข่าวใหญ่ของวงการไอทีมาได้สักพักหนึ่ง ผลก็เป็นอย่างที่ทราบ ซัมซุงพ่ายแพ้คดีที่สหรัฐอเมริกาแล้วก็กลายเป็นข่าวไปทั่วโลก สาวกสองฝ่ายก็ออกมาดราม่ากันตามธรรมเนียม

iPhone Samsung

ในความเป็น “รูปธรรม” ซัมซุงจะต้องจ่าย 32,000 ล้านบาท แต่ก็มีสิทธิ์ยื่นอุธรได้ หากนำไปเทียบกับรายได้ที่มีอยู่ของซัมซุงมันก็เป็นเงินจิ๊บๆ

แต่การสู้กันครั้งนี้มันไม่ใช่การทำลายธุรกิจระหว่างกัน ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงิน ซัมซุงแพ้ ไม่ได้หมายความว่าซัมซุงจะเจ๊งซะทีเดียว บริษัทมีผลกระบ้างแต่ก็ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ อีกทั้ง Apple กับ Samsung ก็เป็นคู่ค้ากันอยู่ โดยซัมซุงเป็นฝ่ายผลิตอุปกรณ์บางอย่างให้กับแอปเปิ้ล

การสู้กันครั้งนี้จึงเหมือนการสู้กันระหว่าง App กับ Samsung ที่เป็นตัวแทนของ Android ทั้งหมด …แต่ทำไม Apple ไม่ฟ้องแบบจัดหนักกับเจ้าอื่นแต่เป็นซัมซุง Apple ก็เคยฟ้องบริษัทอื่น แต่กับซัมซุงมันเป็นข่าวใหญ่มากกว่า

ผมแบ่งการฟ้องเป็น 2 ประเด็น คือ ละเมิดสิทธิบัตรของฟังชันการทำงาน กับ ลอกดีไซน์ เรื่องฟังชันการทำงานผมว่าประเด็นนี้คุยได้ยาว แต่ที่ผมสนใจคือการ “ลอกดีไซน์” ผมว่ามันร้ายแรงกว่าเรื่องฟังชันการทำงานด้วยซ้ำไป

ลักษณะของตัวเครื่องเป็นอะไรที่บ่งบอกถึงรสนิยมพอสมควร สิ่งที่ Apple ขาย ไม่ใช่แค่ความสามารถของเครื่อง แต่ขายรสนิยมไปด้วย เหมือนกระเป๋าทำไมต้องเป็นหลุยส์ เสื้อยีนส์แม็ค รถเฟอรารี่ อะไรประมาณนี้ ของพวกนี้อย่างอื่นมันทดแทนได้ แต่ความรู้สึกที่ได้ใช้มันต่างกัน มันแทนกันได้ยาก

และการลอกงานดีไซน์ของซัมซุงก็เหมือนกับการ “ลอกความรู้สึก” ที่จะได้ลับจากจากใช้ซัมซุง ทำให้มือถือบางรุ่นของซัมซุงถูกข้อครหาว่าไปเหมือนกับ iPhone โดยเฉพาะ Samsung Galaxy S ที่ไปเหมือน iPhone 3GS กับ Samsung Cooper ที่ไปเหมือนกับ iPhone 4 …คือมันไม่ได้เหมือนทีเดียว ไม่ได้เหมือนแบบจีนก็อบ แต่เป็นการลอกโดยปรับดีไซน์ให้รู้สึกว่าคล้าย ไม่ได้ให้เหมือน 100%

ดังนั้นเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของ “ความรู้สึกของผู้ใช้” มากกว่า การที่ Apple ออกมาฟ้องดคีก็เหมือนกับการปกป้อง ไม่ให้ความรู้สึกนี้ ไปตกอยู่กับผลิตภัณฑ์อื่น ซึ่งก็คือซัมซุงที่ลอกงานออกแบบจนถูกแบนห้ามขายไปหลายรุ่น

ถ้านับตั้งแต่รุ่น Samsung Galaxy S นั่นคือความพยายามที่จะลอกอย่างชัดเจน ในตอนนั้น Android มันไม่ใช่แบบนี้ ไม่มีไอคอนสี่เหลี่ยม บนหน้าแอพกดดูแบบเลื่อนขึ้นลง ไม่ใช่ปัดซ้ายขวา และไม่มีปุ่มตรงกลางใหญ่ๆแบบ iPhone …หลังจากรุ่นนั้น รุ่นต่อมาก็มาเป็นแนวๆนี้อยู่หลายเครื่อง โดยเฉพาะตระกูล Galaxy

ตอนนี้ ซัมซุงไม่ได้ลอกหนักๆแบบเดิมแล้ว หลังๆมาก็พยายามฉีกแนวอยู่ อย่างรุ่น S3 ที่พัฒนาไปแบบเกือบจะล้ำหน้า iPhone ไปแล้ว แต่พอมี S-Voice มันเหมือนเขาจงใจที่จะลอก “ความรู้สึกของผู้ใช้ Siri” เพราะหน้าตาและการใช้งานคล้ายกัน …ต่างกับ Google Now ใช้เหมือนกันกับ Siri แต่ไม่ถือว่าเป็นการลอก เพราะดีไซน์ต่างกันสิ้นเชิง ความรู้สึกการใช้มันจึงต่างกัน

ผลของข่าว
ตอนนี้ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม คนจะนิยมมือถือซัมซุงมากขึ้นหรือจะลดลง อันนี้ไม่ขอกล่าว ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาตร์จะมาวิเคราะห์เรื่องการขายได้ แต่สิ่งที่จะวิเคราะห์ได้ต่อไปนี้คือ “ความรู้สึกของผู้ใช้มือถือ Samsung” ที่อาจจะไม่ได้เหมือนเดิม จากที่ถือแล้วมันล้ำมันดูดี อาจกลายเป็นว่าถือของก็อป iPhone โดยเฉพาะกับซัมซุงรุ่นที่เปิดตัวเมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว

คำถาม : แบบไหนถึงไม่เหมือน
มือถือ Android มีหลายเจ้ามากๆ แต่ทำไมถึงต้องเป็นซัมซุง คือ ลองหยิบมือถือของ Sony, HTC, Motorola, Acer และรุ่นอื่นๆ จับมาเทียบกับ iPhone ยังงัยก็ไม่คล้ายกัน ทั้งรูปลักษณ์และปุ่มกดบนเครื่อง มันมีเอกลักษณ์ของความเป็นมือถือแต่ละบริษัทอยู่ …จริงๆซัมซุงก็มีเอกลักษณ์ของเขาอยู่ หากนำไปเทียบกับ Android ด้วยกัน ที่มีปัญหา เพราะถ้านำไปเทียบกับผลิตภัณฑ์ของ Apple แล้วมันดันเหมือนกว่าเจ้าอื่นๆ

]]>
http://makky.in.th/2240/feed/ 7
Samsung S2 สรุปปัญหาการใช้งานส่วนตัว http://makky.in.th/1420/ http://makky.in.th/1420/#comments Tue, 17 Jan 2012 14:42:53 +0000 http://makky.in.th/?p=1420 makky-356

ตั้งแต่ใช้ Samsung Galaxy S2 มาผมมีปัญหาอยู่อย่างเดียวคือ “แบตหมดไว” ในการใช้งานในโหมดปกติ แต่แม้ว่าปรับเป็น “โหมดประหยัดพลังงาน” แล้วมือถืออยู่ได้นานมากขึ้น แต่มันก็ไม่ใช่โหมดที่เป็นปกติ ความรู้สึกเวลาใช้งานก็เลยเหมือนใช้ได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะเวลาออกไปข้างนอก เวลาต้องรออะไรนานๆ แต่อยากจะเล่นเกมส์แรงๆหนักๆก็หวั่นขากลับไม่เหลือแบตไว้ใช้โทร

Samsung S2 ก็เลยเหมาะที่จะเอาไปใช้ในสถานที่ที่ชาร์ทไฟได้ เช่น ที่ทำงาน แต่ถ้าเดินทางออกไปที่ไกลๆ แล้วใช้ Samsung S2 ระหว่างทาง อาจจะใช้ได้ไม่นานเท่าไหร่ โดยเฉพาะถ้าเปิด Edge/3G/Wifi ไว้ด้วยแล้ว เครื่องจะสูบแบตเร็วเป็นพิเศษ

จากปัญหาแบบนี้เลยทำให้รู้สึกว่าใช้ Samsung S2 ได้ไม่เต็มที่ ผมเคยใช้ Samsung Fit มาก่อน ซึ่งไม่เคยมีปัญหาแบบนี้ แต่กลับ Samsung S2 มันคนละเรื่องเลย แต่เครื่องผมไม่ได้เป็นอยู่เครื่องเดียวอ่ะนะ Samsung S2 คนอื่นๆหลายคนก็เป็นกัน และไม่ใช่แค่มือถือ Samsung มือถือ Android หลายๆรุ่นก็มีปัญหาแบบนี้ แต่ผมว่า Samsung S2 มันสูบแบตเยอาะที่สุดแล้ว จนต้องชาร์ททุกวัน

จะเอาไงต่อ….

สุดท้ายแล้ว ก็คงต้องใช้ๆไปก่อน เพราะ Samsung S2 มันก็มีดีของมันอยู่ คือจอใหญ่และเล่นแอพได้หลายแอพ แต่มาตายที่แบตหมดไว

มือถือเครื่องต่อไป…

ถ้าจะมีเครื่องใหม่ ผมคงเลือกที่มันมีแบตทนๆ ใช้ได้นานหน่อย แต่จะเป็น Samsung หรือไม่ คิดว่าจะพอแค่นี้ สำหรับมือถือยี่ห้อนี้ แม้ว่า Samsung S2 จะสเปกดี จอใหญ่ ถ่ายรูปสวย แต่เรื่องแบตผมทนไม่ไหวจริงๆ

]]>
http://makky.in.th/1420/feed/ 8
ตั้งค่าปลดล็อค Samsung S2 ถ้าไม่อยากให้คนอื่นมาแอบใช้ http://makky.in.th/1406/ http://makky.in.th/1406/#comments Tue, 10 Jan 2012 16:20:54 +0000 http://makky.in.th/?p=1406 SC20120110-222845

โดยปกติผมไม่มีปัญหาหรอกว่าใครจะหยิบโทรศัพท์ผมไม่ใช้ เพราะมันไม่มีข้อมูลลึกลับอะไรให้ต้องค้นหา แต่สำหรับคนที่มีความกังวลว่าเพื่อนหรือคนอื่นๆที่เปิดมาอาจจะทำให้พบ “ความลับ” ซึ่งอาจจะเป็นรูปภาพ คลิป หรือเบอร์โทรคนพิเศษ ที่ไม่อยากให้ใครรู้ …แม้แต่กับแฟน

วิธีป้องกันที่นิยมใช้คือ “ตั้งค่าการปลดล็อคหน้าจอ” โดยปกติ Samsung Galaxy S2 จะปลดล็อคง่ายๆด้วยการเลื่อนหน้าจอออก แต่เราทำให้ยากกว่านั้นได้ ด้วยการใส่รหัสหรือจะใช้วิธีลากจุด

วิธีทำ
เข้ามาที่ ตั้งค่า >> ตำแหน่งและระบบป้องกัน >> ตั้งค่าการล็อคหน้าจอ

เลือกรูปแบบการล็อค

  1. ไม่มี – ยกเลิกการตั้งค่า
  2. รูปแบบ – วาดรูปเพื่อปลดล็อค
  3. PIN – รหัสผ่านตัวเลข
  4. รหัสผ่าน – รหัสผ่าน

SC20120110-222920SC20120110-222953

ในกรณีที่เลือก “รูปแบบ” จะเป็นการปล็ดล็อคด้วยการวาดเส้น วิธีนี้ผมชอบที่สุด

SC20120110-223536

ส่วน PIN กับ รหัสผ่าน จะต่างกันตรงที่ PIN ใส่ได้แต่ตัวเลข ส่วนรหัสผ่านได้ทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ แต่ใส่เฉพาะตัวเลขไม่ได้

แต่…ถ้าคุณลืมรหัสผ่าน หรือจำวิธีปลดล็อคไม่ได้ คงต้องเอาเครื่องเข้าศูนย์เลยนะครับ

และ วิธีนี้ช่วยป้องกันขโมยไม่ได้นะ กันไม่ให้คนใช้ได้อย่างเดียว

]]>
http://makky.in.th/1406/feed/ 5