เว็บมาสเตอร์ – Makky.in.th http://makky.in.th ถึงเวลา เดี๋ยวเรื่องก็มาเอง Wed, 31 Aug 2016 09:05:26 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.1.4 บทเรียนเจ็บๆของเว็บมาสเตอร์กับ Google Picasa http://makky.in.th/1343/ http://makky.in.th/1343/#comments Thu, 22 Dec 2011 07:09:09 +0000 http://makky.in.th/?p=1343 untitled

ตั้งแต่ทำเว็บมา ผมมีปัญหาทุกเดือน และเมื่อเดือนที่แล้วก็พบปัญหาใหญ่ เล่นเอารายได้เว็บหดไปหลายพัน นั่นก็คือภาพจาก Google Picasa บริการฝากรูปออนไลน์ ไม่แสดงภาพที่เว็บ หลายๆเว็บก็เป็น  ตอนนั้นผมค่อนข้างตกใจเพราะปัญหามันมาจาก Google และแก้อะไรไม่ได้ ผมจึงแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการเปลี่ยนไปฝากรูปกับ Flickr.com แทน

ที่ผมบอกว่ามันเป็นป็นปัญหาใหญ่ เป็นเพราะเว็บผมนำเนื้อหาแบบมีรูปประกอบ มีรูปทุกบทความ และภาพส่วนใหญ่ก็ฝากไว้กับ Google  …ที่ผมต้องฝากรูปไว้กับ Google ก็เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายโฮส ถ้าฝากรูปไว้กับโฮสค่าใช้จ่ายจะต้องสูงเพราะคนชอบก็อปรูปเราไปลงเว็บอื่น อีกทั้งการฝากรูปไว้กับโฮสตัวเอง ฐานข้อมูลจะมีขนาดใญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผมว่ามันไม่เป็นผลดีกับเว็บเท่าไหร่

ตอนที่เจอปัญหาใหม่ๆ ผมเฝ้าดูปัญหาอยู่วันหนึ่ง เพราะคิดว่ามันจะเป็นแค่ชั่วคราว แต่ปรากฏว่าเลยมาสามวัน ภาพจาก Google ก็ไม่แสดงที่เว็บเช่นเคย มันจะแสดงเป็นบางครั้ง ซึ่งทำให้คนเข้าเว็บน้อยลง  ผมแก้ปัญหาด้วยการลองจ่ายเงินเพิ่ม 5$ ต่อปี เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บภาพใน Google แต่ปัญหาก็ยังเหมือนเดิม

Flickr logo

ในที่สุดผมก็หาทางออกด้วยการใช้บริการฝากรูปของ Flickr.com เป็นเว็บฝากรูปที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพราะคนใช้กันทั้งโลก ผมเห็นเว็บ Fail.in.th เขาก็ใช้ ก็เลยใช้บ้าง  แต่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มในภายหลัง ประมาณ 700 กว่าบาท ต่อปี  ผมยอมจ่าย เพราะถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เสียแค่ 7 ร้อยกว่าบาท แต่ฝากรูปได้ไม่จำกัด

และหลังจากเปลี่ยนมาฝากรูปกับ Flickr.com  เว็บผมก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติ คือภาพจาก Google ก็กลับมาแสดงบนหน้าเว็บเหมือนเดิม  จากกรณีนี้ ผมเดาๆว่าเป็นเพราะคนดูรูปเยอาะมากเกินไป Google จึงกำจัดการเข้าชม  การฝากรูปไว้กับ Flickr.com จึงเหมือนการกระจายแบนวิธออกไป  ช่วยลดภาระของภาพจาก Google

และหลังจากนี้ผมคงจะเปลี่ยนมาฝากรูปไว้กับ Flickr.com อย่างถาวร แต่ถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีกก็คงจะเปลี่ยนผู้ให้บริการฝากภาพไปเรื่อยๆ ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

]]>
http://makky.in.th/1343/feed/ 8
ปัญหาที่เว็บมาสเตอร์จะพบ เมื่อทำเว็บไปนานวัน http://makky.in.th/1158/ http://makky.in.th/1158/#comments Wed, 09 Nov 2011 13:43:19 +0000 http://makky.in.th/?p=1158

สิ่งที่หลายๆเว็บมีปัญหาเหมือนกันคือเว็บล่ม เว็บล่มมีปัญหาทั้งจากโฮสและจากเราเอง อีกปัญหาคือเกิดจากคนที่เข้ามาคอมเม้นในเว็บที่มีทั้งหวังดีและหวังร้าย  และบางครั้งก็มีปัญหากับปลั๊กอินของเว็บเสียเอง

ปัญหาเว็บล่มของผมเกิดจากการที่เว็บมีไฟล์ภาพจำนวนมากและคนเข้าดูเยอาะมาก ในตอนแรกที่ทำเว็บผมอัพไฟล์ภาพทั้งหมดเข้าโฮสตัวเอง ช่วงแรกๆ ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเว็บแรกที่ผมทำคือ droidza.com ไฟล์ภาพเยอาะมาก เพราะมีภาพทุกบทความ ต่อมาได้ติดตั้งเว็บเพิ่มอีกสองเว็บ ได้แก่ maahalai.com และ makky.in.th คือบล็อกนี้เอง ปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้น ในช่วงเดือนมีนา-เมษา ปีนี้เอง เป็นช่วงที่นักเรียนนักศึกษาปิดเทอม คนเข้าเว็บเยอาะมาก วันละหลายหมื่นคนจนเว็บล่ม ล่มเว็บเดียวแต่เสียหายยกพวง คือเว็บ maahalai.com มีคนเข้าชมจำนวนมาก ช่วงนั้นเข้าเยอาะอยู่เว็บเดียว จนโฮสทำงานไม่ได้ ทางเจ้าของโฮสเขาก็เลยแจ้งแนะนำให้เปลี่ยนระบบเป็น VPS จากเดิมที่ผมใช้ แชร์โฮสคือโฮสเดียวทำงานร่วมกับเว็บเจ้าอื่นด้วย การใช้ VPS เป็นการลำลอโฮสแยกตัวออกมา ทำให้เว็บรองรับผู้ชมได้มากขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นจากรายปีเปลี่ยนเป็นรายเดือน

ปัญหาเว็บล่มผมไม่ได้แก้ปัญหาแค่อัพเกรดระบบโฮส เพราะต้นตออยู่ที่รูปภาพจำนวนมากที่ฝากไว้กับโฮส หลังจากได้อัพเกรดเป็น VPS แล้ว ผมได้ทยอยลบภาพหลายพันภาพในโฮส แลพอัพโหลดภาพฝากไว้กับ Google และแก้ไขบทความใหม่เพื่อให้โฮสไม่ทำงานหนักจนเกินไป และถ้าไม่ทำต้อเสียตังอัพเกรด VPS เพิ่มอีก ในตอนนั้นผมต้องนอนเช้าทุกวันเพื่อแก้ไขบทความเป็นพันๆเรื่อง

อีกสาเหตุที่มาพบภายหลังคือเกิดจากปลั๊กอินที่ใช้ ถ้าใครใช้ WordPress ก็ลบ Relate post กับ WP-postview ออกไปได้เลย มันทำให้โฮสทำงานหนัก แต่เปลี่ยนไปใช้ปลั๊กอินตัวอื่นๆที่ทำงานไกล้เคียงกันแต่ไม่ทำร้ายโฮส

ส่วนปัญหาจากคนที่เข้ามาคอมเม้น ส่วนใหญ่เป็นคนไทย ชอบเข้ามาโฆษณาทำงานออนไลน์ได้ตังค์ ทำ SEO เข้าเว็บตัวเองบ้าง คนพวกนี้ผมเจออยู่วัน และก็ลบออกทุกวัน เพราะทันทีที่ได้รับเมล์แจ้งเตือนผมก็เข้าไปลบ

นอกจากโฆษณาคอมเม้นอื่นๆ ไม่เข้ามาผมก็ลบ เพราะถือเป็นสิทธิ์ขาดในฐานะเจ้าของเว็บ คอมเม้นที่ลบส่วนใหญ่ จะลบพวกที่ใช้คำหยาบ ด่าทอคนอื่น บางคนก็ด่าเจ้าของเว็บเสียเอง ผมเจอผมลบออกไป แต่คอมเม้นดราม่าก็ยังมีอยู่เยอาะ มีดราม่ากันทุกวัน โดยเฉพาะเว็บ maahalai.com แต่ส่วนใหญ่ผมไม่ได้ลบออก เพราะเขาไม่ได้หยาบคาย ถ้าใครหยาบคายค่อยลบ

ปัญหาเกี่ยวกับการคอมเม้นอีกอยาก ที่ผมพยายามไม่ให้มันเป็นปัญหา คือหลายๆบทความจะมีการตั้งคำถามมากมาย ซึ่งหลายๆคำถามมันมีคำตอบอยู่ในบทความ หลายคนถามนอกเรื่อง หลายคนถามคำถามที่ผมตอบไม่ หลายคนถามแบบไม่มีมารยาท …ผมก็ไม่ตอบ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กอ่ะนะ เวลาถามคำถามจะลงท้ายด้วยคำว่า “ตอบด้วย” มันเหมือนกับจะบังคับกัน ผมถือว่าถามแบบนี้ไม่ให้เกียรติกัน

ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาส่วนหนึ่ง จากประสบการณ์ทำเว็บมาเกือบสองปี ในความเป็นจริงงในแต่ละเดือนผมมีปัญหามาเป็นระยะๆ เพราะเว็บมันเป็นงานที่ต้องพัฒนาอยู่เรื่อยๆ เว็บไม่ใช่งานฝากเงินธนาคาร ทำครั้งเดียวแล้วรอเก็บดอกเบี้ย เว็บต้องการความต่อเนื่อง และความท้าทายของงานนี้ยังมีอีกมากมาย

]]>
http://makky.in.th/1158/feed/ 11
8 ปีก่อน เคยฝันว่าอยากเป็นครู http://makky.in.th/1033/ http://makky.in.th/1033/#comments Wed, 05 Oct 2011 18:11:21 +0000 http://makky.in.th/?p=1033 ว่ากันว่าคนเราต้องมีจุดยืน มีฝันต้องทำให้สำเร็จ …แต่จุดยืนผมเปลี่ยนเกือบทุกปี  ตอนอยู่ ม.6 ช่วงนั้นเป็นจุดเริ่มของการเลือกอนาคตอย่างจริงจัง ตอนนั้นอยากเป็นครู เพราะคิดว่าถ้าได้เป็นครูเราจะสอนดีกว่าครูที่สอนเราอยู่ และไม่เห็นด้วยกับวิธีการสอนขอครุในสมัยนั้น และในสมัยนั้น “ทฤษฏีสอนแบบท่องจำ” ผมยังไม่รู้จักหรอกนะ  แต่มันรู้สึกได้ ตอนที่เรียนวิชาสังคมกับอาจารย์ท่านหนึ่ง เป็นช่วงซัมเมอร์ที่นักเรียนชั้น ม.5 กำลังจะขึ้น ม.6 ทุกคนทุกคนต้องเรียน (เฉพาะโรงเรียนผมนะ) แล้วแกสอนแบบเปิดหนังสืออ่านให้นักเรียนฟัง แล้ววิชาสังคมก็เป็นอีกหนึ่งวิชาที่ผมไม่เคยอ่านหนังสือจบทั้งเล่ม หนังสือเล่มค่อนข้างหนา ถ้าไม่มีสอบก็คงจะไม่อ่าน

จุดเปลี่ยนมาเกิดขึ้นตอนที่นึกได้ว่าเกรดไม่ถึง 2.5 สอบเข้าศึกษาศาสตร์ไม่ได้ ได้หนึ่งปลายๆ เปลี่ยนใจไปเรียนประวัติศาสตร์ ด้วยความคิดที่ว่าจะเรียนวิชาชีพครูไปด้วย  วันเวลาผ่านไปหลังจากได้เรียนประวัติศาสตร์ไปสักพักความคิดที่อยากเป็นครูก็หายไป หายไปกับเวลา  แต่ก็เห็นเพื่อนๆหลายคนเรียนวิชาชีพครู จบไปเป็นครูกันก็หลายคน  ขณะอีกหลายคนก็ยังไม่รู้เลยเรียนจบแล้วจะไปทำอะไร จะไปเป็น “นักประวัติศาสตร์” ก็ดูจะลำบาก เพราะตำแหน่งงานแบบนี้แทบจะหาไม่ได้ นอกจากจะต่อโทแล้วไปเป็นอาจารย์  เพราะนักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ก็มีแต่อาจารย์มหาวิทยยาลัย

แต่หลังจากเรียนมาสองปี ก็มีทางเลือกใหม่คือ เอกประวัติศาสตร์แตกออกเป็นหลายสาขา ที่นิยมก็มีการท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ ผมเลือกพิพิธภัณฑ์ ตอนนั้นเข้าใจว่าเรียนแล้วน่าจะสนุกเพราะมีการออกแบบพิพิธภัณฑ์ ตอนเรียนก็ได้ลอทำจริงๆ ได้ลองออกแบบพิพิธภัณฑ์แต่ใช่คนออกแบบในฐานะนักออกแบบอย่างคนที่เรียนสถาปัต  แต่เรียนออกแบบเพื่อให้เข้าใจนักออกแบบและทำงานร่วมกันได้

การได้เรียนวิชาพิพิธภัณฑ์ทำให้ผมได้ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากได้ลองออกแบบเองด้วยการใช้โปรแกรม Google SketchUp นำเสนองานออกแบบ และวิชานี้ต้องใช้ Powerpoint บ่อยๆ ทำให้ได้ทักษะการนำเสนองาน จนนำมาเป็นวิชาหาเลี้ยงชีพ (และเงินจาก Powerpoint นี่แหล่ะ ทำให้ผมมีเงินมาสร้างเว็บ)

ผมต่อโทพิพิธภัณฑ์ศึกษาด้วยความคิดที่ว่าจบมาแล้วจะไปเป็นอาจารย์สอนพิพิธภัณฑ์ ผมคิดว่าทำได้ดีตอนที่เรียน ป.ตรี และพอได้มาเรียนโทก็พอใช้ได้  …แต่ทำไมวันนี้ถึงกลายมาเป็นเว็บมาสเตอร์ ไม่ไปเป็นอาจารย์  จุดเปลี่ยนก็เมื่อสองปีก่อน ช่วงซัมเมอร์ ไปลงพื้นที่ศึกษาวัฒนธรรมบนดอยที่เชียงใหม่ ประสบอุบัติเหตุแขนหัก ระหว่างพักรักษาตัวรู้สึกว่าว่างจัดเพราะนอนพักนิ่งๆหลายชั่วโมง จะไปอ่านหนังสือห้องสมุดเหมือนเดิมก็ไม่ได้  แต่ผมเอาเวลาว่างตรงนั้นมาหัดทำเว็บ

วันนี้ยังเป็นเว็บมาสเตอร์อยู่  แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรมาเปลี่ยนจุดยืน เปลี่ยนสิ่งที่ทำ เมื่อทบทวนอดีตที่ผ่านมาก็ไม่คิดว่าอนาคตจะแน่นอน วันนี้ทำเว็บ วันหน้าอาจจะไปทำอย่างอื่น  เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังมีความสุขกับการทำเว็บ แต่ก็ยังแอบหาทางเลือกอื่นๆสำรองไว้อยู่ หากว่าวันใดเพี่ยงพร้ำขึ้นมาอีก

]]>
http://makky.in.th/1033/feed/ 5
สำรวจโครงสร้างการทำงานเว็บคร่าวๆ จากประสบการณ์ http://makky.in.th/876/ http://makky.in.th/876/#comments Sat, 27 Aug 2011 13:05:10 +0000 http://makky.in.th/?p=876

ส่วนใหญ่ Webmaster เป็นทั้งเจ้าของเว็บ ฝ่ายการตลาด ฝ่ายออกแบบ และทำเนื้อหา แต่ที่เขียนโปรแกรมเองด้วยส่วนตัวยังไม่เคยเห็น  ทุกเว็บไซท์ของผมเองก็ทำเองหลายๆอย่าง ยกเว้น “โปรแกรม” เขียนเองไม่เป็น อย่างเก่งคือแค่ติดตั้งโปรแกรมเสริมความสามารถให้กับเว็บ

หากชำแหละโครงสร้างการทำงานเว็บออก ผมแบ่งไว้ดังนี้

  1. เจ้าของเว็บ  เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย กำหนดแนวทาง และเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด หากมีคดีความหรือเกิดเหตุอันใดขึ้น คนที่รับผิดชอบควรเป็นเจ้าของเว็บ
  2. เว็บมาสเตอร์  ผู้จัดการระบบเว็บ เนื้อหา ติดตั้งโปรแกรมต่างๆ
  3. บล็อกเกอร์  คนเขียนเนื้อหา เป็นผู้สร้างสาระให้กับเว็บ
  4. ออกแบบ  ออกแบบหน้าเว็บและกราฟฟิคต่างๆ
  5. การตลาด  ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสร้างรายได้ให้กับเว็บ
  6. โปรแกรมเมอร์  เขียนโปรแกรม
  • ทุกตำแหน่งตั้งแต่ 1-6 เป็นคนๆเดียวกันได้ แต่เท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะ 1-5 คือทำทุกอย่าง ยกเว้นเขียนโปรแกรม  1-5 หลายคนทำได้ เรียนรู้ได้ แต่การเขียนโปรแกรมมันเป็นศาสตร์ที่ซับซ้อนต้องมีความรู้เรื่องนี้จริงๆถึงจะทำได้
  • ส่วนตัวใช้ WordPress ในการสร้างเว็บ เป็นระบบที่มีเครื่องมือและส่วนเสริมมากมาย ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโปรแกรมเมอร์ แต่จะอาศัยโปรแกรมของโปรแกรมเมอร์มาติดตั้ง  ส่วนการออกแบบเว็บไม่จำเป็นต้องทำเองก็ได้ เพราะมีธีมสำเร็จรูปมากมายนำมาติดตั้งเว็บได้ทั้งฟรีและเสียเงิน  แต่จำเป็นต้องมีทักษะงานออกแบบกราฟฟิคบ้าง เพื่อปรับธีมสำเร็จรูปให้เข้ากับเว็บตัวเอง
  • สำหรับบล็อกเกอร์จะมีจะมีบทบาทอย่างไรขึ้นอยู่ว่าจะเป็นเว็บประเภทไหน เช่น เว็บบอร์ด เว็บขายของ  เว็บประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องมีบล็อกเกอร์ก็ได้แต่ถ้าเป็นเว็บขายเนื้อหาขายข่าว จำเป็นต้องมีคนเขียน   เช่น Maahalai.com จุดขายอยู่ที่เนื้อหา ต้องหมั่นอัพเดทเนื้อหาอยู่บ่อยๆ หรือ เว็บ Desisnza.com เป็นเว็บขายงานบริการ  อัพเดทเนื้อหาไม่กี่ครั้ง ที่เหลือเป็นการประชาสัมพันธ์
  • ในด้านการตลาด ไม่ใช่แค่งานประชาสัมพันธ์ บอกข่าว แต่การตลาดทุกวันนี้ต้องสร้างสื่อสังคมออนไลน์ เป็นช่องทางเข้าถึงและพูดคุยกับผู้ชมเว็บ  และงานสำคัญอีกอย่างคือการจัดหารายได้  ถ้าเป็นเว็บขายเนื้อหา ก็จะหาโฆษณา  ถ้าเป็นเว็บขายของ ก็จะหาคนซื้อของ เป็นต้น
ประเภทเว็บไซท์ไม่ใช่มีแค่ขายโฆษณากับขายของนะ แต่ประสบการณ์ผมจำกัดอยู่แค่นี้  แต่ยังมีเว็บแนวอื่นๆ เช่น เว็บที่เปิดบล็อกให้คนมาเขียน เว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์  เป็นต้น  แต่ละเว็บจะมีโครงสร้างการทำงานที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเว็บใหญ่หรือเล็ก เป็นเว็บประเภทไหน จุดประสงค์เพื่ออะไร ฯลฯ
]]>
http://makky.in.th/876/feed/ 9
1 เดือนเต็มๆกับเว็บ “Maahalai.com” http://makky.in.th/265/ http://makky.in.th/265/#comments Mon, 13 Dec 2010 17:56:44 +0000 http://makky.in.th/265

Maahalai - มหาวิทยาลัยออนไลน์ สาระ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่งภาพ PhotoScape สังคมออนไลน์ facebook twitter แฮปปี้คนเลี้ยงหมู

Maahalai.com มหาวิทยาลัยออนไลน์ เป็นโปรเจคที่ผมฝากความหวังไว้มากที่สุดเว็บหนึ่ง ทำร่วมกับเพื่อนโดยผมเป็นเว็บมาสเตอร์  ในความตั้งใจอยากจะให้เว็บนี้เป็นศูนย์รวมของการแบ่งปันความรู้เชิง “คุณภาพ” คือความรู้ที่มาจากประสบการณ์จริงนั่นเอง

ธีมเว็บ

ความยากของการทำเว็บคือการออกแบบหน้าตานี่หล่ะ ผมเขียนธีมเองไม่เป็นแต่ไปหาธีมเว็บ WordPress มาโมใหม่ให้เป็นแบบของตัวเอง มันยากนะกว่าจะเจอธีมที่ถูกใจ จนถึงตอนนี้ก็ยังอยากเปลี่ยนธีมใหม่ เพราะเว็บมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ บทความมากขึ้น เว็บซับซ้อนขึ้น  …แต่เป้าหมายของผมคืออยากให้คนที่มารู้และเข้าใจว่าเป็นเว็บอะไร เกี่ยวกับอะไร และเข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายๆ

การเขียน

กว่าจะจับทิศจับทางแนวการเขียนนี้ไม่ง่ายเลยครับ เขียนไปเรื่อยๆ อยากเขียนอะไรก็เขียน จนตอนนี้ได้แนวการเขียนแล้ว สำหรับผมหลักๆคือ Facebook, PhotoScape, แฮปปี้คนเลี้ยงหมู และแนะนำ Facebook Fanpage  …ก้าวต่อไปเป็นการพัฒนาบทความให้น่าสนใจและมีความหลากหลายในเชิงลึกมากขึ้น  และเริ่มเปิดโอกาสให้คนอื่นๆได้เข้ามามีส่วนร่วม แต่ความยากคือต้องทำระบบให้คนเข้าใจง่ายเสียก่อน

การทำงาน

ในเดือนแรกของการทำเว็บ Maahalai.com ต้องบอกว่าโครตเหนื่อยเลย กว่าเว็บจะเป็นรูปเป็นร่าง มีเพื่อน “ขิม” ร่วมเขียนบทความ วิจารณ์เว็บ และนำเสนอแนวทาง …ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ห้องสมุด มหาวิทยาลัยมหิดล นั่งเล่นเน็ตและทำงานไปด้วยบริเวณชั้นสอง-สาม เล่นอยู่บริเวณที่มีสายโน๊ตบุ๊คให้เสียบ

รายได้

น้อยนิดมากๆในเดือนแรกทำได้เพียง 3 ดอลล่ากว่าๆ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 90-100 บาท รายได้นี้มาจาก Google นะครับ แต่ในอนาคตผมว่ามันต้องได้มากกว่านี้  และจะปรับแต่ง Google Adsense เพื่อให้ทำเงินได้มากว่าเก่า

 

]]>
http://makky.in.th/265/feed/ 3
เว็บมาสเตอร์อย่างเต็มตัว http://makky.in.th/127/ http://makky.in.th/127/#comments Sat, 30 Oct 2010 06:26:01 +0000 http://makky.in.th/127 makkyweb

เมื่อวานได้ลงทุนสร้างตารางงานเกี่ยวกับการทำเว็บไว้อย่างละเอียด คราวนี้ต้องมาอัพเดทเว็บบ่อยๆ โดยเว็บมีทั้งหมดสี่เว็บหลักๆ ได้แก่ DroidZa.com  Makky.in.th Maahalai.com และ DesignZa.com ทั้งหมดผมเป็นเว็บมาสเตอร์จึงจัดเป็นเว็บในเครือของ Makky.in.th ในอนาคตอยากจะมีบริษัทภายใต้เครือข่าย “แม็กกี้ อินไทย คอมพานี” ไม่รู้ว่าฝันเฟื่องไปรึปล่าว แต่เราก็ทำหลายฝันให้เป็นจริงไปแล้ว ฝันที่ฝันมานานคือเว็บมาสเตอร์  ฝันที่ใช้ความสามารถตัวเองไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใคร

ถึงตอนนี้ก็ต้องหารายได้โดยตั้งเป้าไว้เดือนพฤษจิกายน อย่างน้อยก็น่าจะได้สัก 7 พัน ทำให้ได้เท่าเงินเดือนข้าราชการแรกเข้า ถ้าทำได้ก็จะพัฒนางานต่อรวมถึงกาสร้างธุรกิจอื่นๆ ตอนนี้เน้นที่การพัฒนาเว็บก่อน ส่วนอยากขายอะไรนั้นตอนนี้กำลังคิดค้น “นวัตกรรม” …เราเคยเห็นงาน PowerPoint การตลาดของลูกค้า สิ่งสำคัญของงานตลาดคือการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆออกมาเพื่อให้งานมีความก้าวหน้ามากขึ้น และเราก็จะพยายามคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆให้ได้ เผื่อจะได้เงินได้งานมากขึ้น

]]>
http://makky.in.th/127/feed/ 3