7 ปีก่อน กับประสบการณ์ถูกรับน้อง ตอน พี่ฉลาก

คณะมนุษยศาสตร์และสังมศาสตร์ มมส.

7 ปีก่อน ตอนนั้นผมเป็นนิสิตใหม่ ม.มหาสารคาม และเข้าเรียน “เอกประวัติศาสตร์” ตลอดเวลาเกือบสี่ปีที่เรียนที่นี่ ผมเคย “ถูกรับน้อง” และเป็น “คนรับน้อง” ด้วย  แต่จะขอเล่าเรื่องของการถูกรับน้องแล้วกัน  ซึ่งรับน้องที่ มมส. (ม.มหาสารคาม) มีทุกระดับ  ตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัย ระดับคณะ ระดับเอก/สาขา  บางชมรมก็มีรับน้อง

แต่จะขอเล่าเรื่องที่ถูกรับน้องในระดับสาขาวิชาก่อน  ในช่วงที่เป็นน้องใหม่ในตอนนั้น ผมไม่มีเพื่อนเลย ผมไปเรียน มมส. แบบตัวคนเดียว รูมเมทที่อยู่หอเดียวกัน เขาก็อยู่กันคนละคณะกัน  เพื่อนที่มาจากโรงเรียนเก่าก็มีบ้าง แต่อยู่กันคนละคณะ มีผมมาแปลกกว่าเพื่อน เพราะเรียนสาย วิทย์-คณิตย์มา แต่ดันมาต่อด้านประวัติศาสตร์

เรียนวันแรก…ตอนนั้นเป็นวิชาวิชาอารยธรรมตะวันตก เรียนเสร็จวันนั้นรุ่นพี่ปีสองก็เข้ามานัดแนะ เพื่อที่จะดำเนินการต่างๆ    หลังจากนั้นช่วงหลังเลิกเรียนจะพี่ชั้นปี 2-3  เริ่มเข้ามาพบอยู่บ่อยๆ  กิจกรรมแรกๆที่เกิดขึ้นคือ “จับพี่ฉลาก”  คือจะให้น้องใหม่ทุกคน  จับฉลาก แล้วก็จะได้ ชื่อแปลกๆ มาในมวนกระดาษนั้นๆ  ชื่อแปลกๆก็คือนามแฝงของรุ่นพี่  เป็นชื่อรุ่นพี่ปี 2 จำไม่ได้แล้วว่าได้ชื่อว่าอะไร  …ขั้นต่อไปของน้องใหม่ คือให้ตามพี่รุ่นพี่ ตามฉลากที่จับได้

สำหรับการตามหา วิธีคือให้ไปถามรุ่นพี่คนอื่นๆ ว่าใครคือเจ้าของชื่อนี้  แต่ผมรู้เลยตั้งแต่วันที่ได้จับฉลากได้  เพราะเธอมานั่งอยู่ข้างหลังผมเลย คือหลังจากจับฉลากแล้ว ก็มีเสียงซุบซิบด้านหลัง  พอเข้าไปถามก็บอกว่าไม่ใช่

กิจกรรมต่อมาก็คือต้องขอลายเซนต์รุ่นพี่ปี 2 ให้ได้ครบทุกคน  โดยจะกำหนดบางวันให้นัดมารวมตัวสำหรับคนที่ว่าง เพื่อที่จะได้พบกันและขอลายเซนรุ่นพี่ให้ครบ  ที่ที่นัดพบประจำคือข้าง พล่าซ่า ติดกับหอกันทรวิชัย อยู่ข้างหอผมเอง เดินลงมาก็ถึง ส่วนเพื่อนที่อยู่หอนอกหลายคนเขาไม่ได้มา บางคนก็ไม่ได้ร่วมกิจกรรมอะไรเลย เรียนอย่างเดียว

สำหรับการนัดพบกันที่พลาซ่า เป้าหมายคือ  น้องใหม่ จะต้องขอลายเซนต์รุ่นพี่ให้ได้ครบ แล้วจะต้องตามหาพี่ฉลากปี 2 ให้เจอ และรายงานตัวว่าเป็นน้อง แต่บางครั้งก็ไม่ได้ลายเซต์รุ่นพี่ง่ายๆ บางคนก็เซนต์ให้เลย บางคนให้ร้องเพลงก่อน หรือต้องเต้นด้วยก็มี   ส่วนการตามหาพี่ฉลาก นับแต่วันที่ผมจับฉลากได้ แล้วถามพี่เขาวันนั้น ก็ไม่ได้ตามหาอะไรอีกเลย หยุดไปเฉยๆ  จนมีรุ่นพี่ที่อยู่กลุ่มเดียวกันเขามาบอกเองว่าพี่คนนั้นพี่ฉลาก

พี่ฉลากจะคล้ายๆกับ “พี่รหัส น้องรหัส” หลังจากที่พี่ฉลากและน้องฉลากเจอตัวกันแล้ว จะกลายเป็น พี่น้องร่วมสาย  และในชั้นปี 1 ด้วยกันผมมีเพื่อนร่วมสายอีกคนคือ จุก เพราะจับฉลากได้พี่คนเดียวกัน  การที่พี่เขาเป็นพี่สาย เขาก็จะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเรียนหรือเรื่องอื่นๆ  นั่นคือหน้าที่ตามทฤษฏี แต่เอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้ปรึกษาหรือคุยอะไรกันเท่าไหร่ ด้วยนิสัยส่วนตัวผมไม่ค่อยคุยกะคนที่ไม่คุ้นเคย แต่เวลามีข่าวหรือกิจกรรมพี่เขาจะมาแจ้ง

ในตอนนั้นผมมีฉลาก 3 คน คือพี่ปี 2 -3 -4  จับฉลากได้พี่ปี 2 แล้วต้องไปตามหาพี่ปี 3 และพี่ปี 4  กิจกรรมนี้ได้จัดสืบทอดกันไปเรื่อยๆ บางคนมีพี่น้องร่วมสายยางเป็นหางว่าว   บางสายก็ “สายขาด” คือรุ่นน้อง ซิ่วไปเรียนที่อื่น ลาออก เป็นต้น

 

Facebook Comments