วันนี้ผมดูละครสอนเรื่องกฏแห่งกรรม ในรายการลิขิตกรรมทางช่อง 5 นำเสนอเรื่องผู้หญิงท้องมารที่ทำกรรมมาหลายเรื่อง ตามเรื่องบอกว่าสาเหตุที่เธอเป็นท้องมารเพราะว่าตอนเด็กชอบเอาลูกหนูมาเลี้ยง จับมันมาป้อนอาหารให้ท้องโตแล้วก็ตาย พอตอนโตจึงปวดท้องและการเป็นคนท้องโต …แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นอยู่ที่ เธอถูกผัวทิ้งไปมีเมียใหม่ ต่อมาเธอก็ท้อง ซึ่งเธอก็ไม่ได้ฐานะดีพอที่จะเลี้ยงลูกได้ และไม่มีพ่อ เพื่อนเธอจึงแนะนำให้ไปทำแท้ง เธอก็ไปทำแท้ง …แล้วสิ่งที่เธอพบหลังจากนั้นคือได้ยินเสียงเด็ก และมาตามหลอกหลอนเธอในฝัน จนเธอสำนึกผิด เข้าวัดปฏิบัติธรรม
บาปของเรื่องนี้ สรุปว่ามี 2 เรื่อง คือ เรื่องเลี้ยงหนูและทำแท้ง
ผมขอเล่าประเด็นทำแท้งแล้วกัน
ตลอดทั้งเรื่องเขายกสาเหตุความผิดมาจากคนเป็นแม่ ที่ไปทำแท้ง เป็นกรรมจนผีตามหลอกหลอน จึงทำให้เข้าใจว่าเพราะแม่ผิด ส่วนพ่อก็เลวไปมีเมียใหม่ …แต่ละครเรื่องนี้ให้น้ำหนักมาที่คนเป็นแแม่ “ทำผิด”
ผมดูเรื่องนี้จบแล้วทำให้นึกถึงการนำเสนอข่าวของสื่อต่างๆขึ้นมาทันทีเกี่ยวกับการทำแท้ง ส่วนใหญ่จะโดยนความผิดให้แม่ โดนตั้งฉายาว่าเป็นแม่ใจยักษ์บ้าง แม่ใจมารบ้าง …ส่วนคนเป็นพ่อลอยตัว ราวกับว่าเด็กที่เกิดมานั้นมาจากคนเป็นแม่เพียงคนเดียว
สื่อโยนความผิดให้คนตั้งท้องแบบเต็มๆ ส่วนคนที่ทำเขาท้องนั้นเหมือนไม่มีตัวตนในเหตุการณ์
ผมคิดว่า…สื่อควรจะให้น้ำหนักกับคนเป็นพ่อมากขึ้น ถ้าเด็กที่ออกมาแล้วมีพ่อ มีคนรับผิดชอบ ผมว่าการทำแท้งมันจะไม่มากมายขนาดนี้ การทำแท้งไม่ใช่ความผิดของฝ่ายหญิงเพียงอย่างเดียว ผมเชื่อว่ามีเหตุผลหลายอย่างที่คนๆหนึ่งจะตัดสินใจทำแท้ง
แต่ผมไม่ได้สนับสนุนให้คนทำแท้งนะ…
คนทำแท้งถูกสื่อตราหน้าแล้วว่าเลว ผิดกฏหมาย คำถามที่ผมคิดคือแล้วถ้าไม่ทำแท้ง จะมีทางเลือกอื่นไหม เพราะถ้าฝ่ายหญิงเขาเลี้ยงดูลูกต่อไปได้อย่าสบายใจเหมือนคุณแม่คนอื่นๆ ผมคิดว่าเขาคงไม่อยากทำแท้งเท่าไหร่หรอกนะ
ผมยกตัวอย่าง สตีฟ จ็อบส์ (อดีต CEO ของแอปเปิ้ล) เป็นลุกที่เกิดมาจากหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ไม่มีความพร้อมจะเลี้ยงลูกเลย เพราะครอบครัวไม่ยอมรับที่จะให้แต่งงานกัน แต่ฝ่ายหญิงไม่ได้ทำแท้ง เธอได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ให้ที่พักพิง ช่วยทำคลอด และจัดหาคนที่จะมารับเลี้ยงเด็กให้
นี่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 55 ปีที่แล้วที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ถ้าไม่มีนายแพทย์ใจดีคนนั้นและสถานที่ทำแท้งนั้นหาได้ง่ายอย่างในปัจจุบัน สตีฟ จ็อบส์ จะได้มีโอกาสมาปฏิวัติวงการไอทีของโลกได้หรือไม่
สรุปที่ผมมองอยู่ก็คือ อะไรคือทางเลือกของคนเป็นแม่ที่ไม่มีความพร้อม ซึ่งความไม่พร้อมนี้อาจจะมีหลายปัจจัย เช่น พ่อของเด็ก ครอบครัว การเรียน ฯลฯ อะไรคือทางเลือกของคนที่มีปัญหาเหล่านี้ ไม่ใช่เอาแต่ด่าว่าทำแท้งแล้วชั่ว แต่จะมีทางเลือกอะไรให้เขาถ้าไม่ทำแท้ง แล้วต้องทำความเข้าใจให้สังคมได้รู้ด้วยว่าคุณจะมีทางเลือกอย่างนี้นะ ถ้าไม่ทำแท้งเราจะมีการช่วยเหลือกอย่างนี้นะ อะไรก็ว่าไป
